มหิดลดันใช้ดัชนีคุณภาพอากาศใหม่ “AQHI” เพิ่มมิติสุขภาพดัชนี AQI เดิม

นักวิชาการคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเผย เตรียมเสนอและผลักดันการใช้ “ดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศที่เชื่อมโยงมิติทางด้านสุขภาพ (AQHI)” ซึ่งดีกว่าดัชนี AQI ที่ใช้ปัจจุบัน ด้วยเพิ่มมิติสุขภาพเข้าไป

เผยกำลังวิจัย เพื่อขยายผลการใช้ดัชนีใหม่ “AQHI” ในพื้นที่ กทม. โดยเบื้องต้นจะเริ่มทดลองใช้ภายในปีนี้ รวม 2 พื้นที่ ในพื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดลก่อน ชี้ก้าวต่อไป ขยับดันนโยบาย “ห้องปลอดมลพิษ-พื้นที่อากาศปลอดภัยกลุ่มเสี่ยง”

(ภาพ : Thai News Pix)

แค่ดัชนี AQI ไม่พอ

“ที่ผ่านมาการสื่อสารสถานการณ์คุณภาพอากาศจะใช้ค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศเป็นค่า AQI (Air Quality Index) ซึ่งแสดงค่าสารมลพิษที่มีความเข้มข้นสูงสุดเพียง 1 ชนิดจาก 6 ชนิดของสารมลพิษหลัก ซึ่งได้แก่ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โอโซน ไนโตรเจนไดออกไซด์ ฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 ที่มีระดับความรุนแรงจากน้อยไปมาก ผ่านสีฟ้า เขียว ส้ม และแดง ตามลำดับ เพื่อให้มีการสื่อสารที่สะท้อนต่อความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการรับสัมผัสสารมลพิษทางอากาศ การปรับค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศโดยเพิ่มการวิเคราะห์เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญทั้งในมิติสะท้อนความเสี่ยงเชิงสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนั้นอาจช่วยเสริมการขับเคลื่อนนโยบายการลดมลพิษจากแหล่งกำเนิด ที่มาจากการเผาไหม้ในภาคส่วนต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการผลักดันต่อการปฏิบัติตามมาตรการเศรษฐกิจโลก ที่กำหนดให้ทุกประเทศมีการประเมิน คาร์บอนเครดิต ในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า โดยจะเป็นการช่วยลดมลพิษตั้งแต่จุดกำเนิด ก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม

ในปัจจุบันประเทศชั้นนำของโลก อาทิ แคนาดา และฮ่องกง ได้มีรายงานการศึกษาวิจัยและการประกาศใช้ค่า AQHI (Air Quality Health Index) จากหน่วยงานภาครัฐ 

สำหรับประเทศไทยในส่วนของภูมิภาคได้มีการปรับค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ โดยเพิ่มมิติทางด้านสุขภาพหรือการแสดงค่า AQHI เพื่อการเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพจากกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 จากภาคเกษตรกรรม”  รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล กาญจนสุธา อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าว

รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล กาญจนสุธา (ภาพ : ประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล)

เตรียมวิจัย ขยายผลใช้ดัชนีใหม่ “AQHI” ในกทม.

“ด้วยทุนโครงการขับเคลื่อนนโยบายชี้นำสังคม ประจำปีงบประมาณ 2566 จากมหาวิทยาลัยมหิดล และจาก TCELS – ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) เราเตรียมศึกษาวิจัยเพื่อขยายผลสู่การใช้ค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพ (AQHI) ในเขตกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก 

ค่า AQHI นอกจากเป็นการเตือนถึงปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศโดยปกติทั่วไปแล้ว ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครจะได้รับข้อแนะนำทางสุขภาพ เมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตกลางแจ้ง เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบจากปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพในระบบทางเดินหายใจ

เพื่อประกอบการตัดสินใจได้อย่างมั่นใจในการวางแผนก่อนออกเดินทางฝ่ามลพิษ ในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5” ประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผย 

ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ใหม่ของกรมควบคุมมลพิษที่จะเริ่มใช้ 1 มิ.ย. 2566 (ภาพ : Thai PBS)

เริ่มทดลองใช้ปีนี้ 2 พื้นที่ ในม.มหิดล

“ในเบื้องต้นจะได้มีการทดลองใช้ค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศที่เชื่อมโยงมิติทางด้านสุขภาพ (AQHI)

ก่อนภายในมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตพญาไท และย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี (YMID – Yothi

Medical Information District) ซึ่งมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นภาคีเครือข่าย ภายในปี 2566 นี้

จากนั้นจะต่อยอดสู่เขตพื้นที่โดยรอบ และผลักดันให้เกิดผลในระดับนโยบายต่อไป” รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล กล่าว

(ภาพ : สสส.)

ก้าวต่อไป “ห้องปลอดมลพิษ-พื้นที่อากาศปลอดภัยกลุ่มเสี่ยง”

“นอกจากการปรับค่าดัชนีชี้วัดฯ ดังกล่าวแล้ว ต่อไปจะได้เสนอให้มี ห้องปลอดมลพิษ ที่สร้างขึ้นภายใต้ระบบห้องความดันบวก (Positive Pressure Room) ตามหน่วยงานสถานพยาบาล โรงงาน และสถานประกอบการต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง ให้ได้มี พื้นที่อากาศปลอดภัย (Safer Zone) ไว้พักสูดอากาศบริสุทธิ์ ผ่านเครื่องกรองอากาศที่ได้มาตรฐาน ซึ่งติดตั้งไว้ภายในห้องที่ออกแบบไว้โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันมลพิษจากภายนอกห้องได้ด้วยในขณะเดียวกัน” รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล กาญจนสุธา กล่าว