23 วาระ ใน “บันทึกความเข้าใจร่วม การจัดตั้งรัฐบาล 22 พ.ค. 2566”

คำต่อคำ แถลง 23 วาระ “บันทึกความเข้าใจร่วม การจัดตั้งรัฐบาล 22 พ.ค. 2566” 8 พรรคร่วมรัฐบาล นำโดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พรรคก้าวไกล

(ภาพ : Matichon)

“บันทึกความเข้าใจร่วมนี้ทำขึ้น เพื่อสร้างพื้นฐานในการจัดตั้งรัฐบาล และทำงานร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่

ทุกพระเหตุร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะผลักดันนั้น ต้องไม่กระทบต่อรูปแบบของรัฐ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ใน การดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ ขององค์พระมหากษัตริย์

ประกอบไปด้วยวาระร่วมดังต่อไปนี้

ข้อที่ 1 ฟื้นฟูประชาธิปไตย รวมถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน

ข้อที่ 2 ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ โดยจะไม่บังคับประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่ตนเองนับถือ

ข้อที่ 3 ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม ให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย โดยยึดหลักความโปร่งใส ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน

ข้อที่ 4 ครับ เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับเป็นระบบสมัครใจ ทั้งนี้ยังคงไว้ซึ่งการเกณฑ์ทหารยามศึกสงคราม

ข้อที่ 5 ครับ ร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคำนึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชน และการอยู่ร่วมกันในสังคมวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงทบทวนภารกิจของหน่วยงาน และการใช้บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง

ข้อที่ 6 ครับ ผลักดันการกระจายอำนาจ ทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปราศจากทุจริต

ข้อที่ 7 ครับ แก้ไขปัญหาการธุรกิจทุจริตคอรัปชั่น โดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุกหน่วยงาน

ข้อที่ 8 ครับ ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม

ข้อที่ 9 ครับ ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากินและการดำรงชีวิตของประชาชน เช่นตัด ลดหรือพักใช้ชั่วคราว ซึ่งการอนุมัติ อนุญาตที่ไม่จำเป็น และเป็นอุปสรรคเพื่อปรับปรุงใหม่ ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องทางด้านการเงิน และสร้างแต้มต่อให้กับ SME พร้อมกับมุ่งเน้นการเติบโต GDP ของ SME สนับสนุนอุตสาหกรรมและสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็งสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้

ข้อที่ 10 ครับ ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพรรคประชาธิปในการไม่เห็นด้วย เฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยเหตุผลด้านศาสนา

ข้อที่ 11 ครับ ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ ด้วยการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม แก้ปัญหาแนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน รวมถึงการทบทวนคดี ที่เป็นผลจากนโยบายทวงคืนผืนป่า

ข้อที่ 12 ครับ ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน และสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

ข้อที่ 13 ครับ จะทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นใช้วิธีการจัดงบประมาณฐาน 0 หรือที่เรียกว่า Zero Base Budgeting 

ข้อที่ 14 ครับสร้างระบบสวัสดิการดูแลประชาชน ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสม และภาระทางการคลังระยะยาว

ข้อที่ 15 ครับ แก้ไขปัญหายาเสพติดโดยเร่งด่วน

ข้อที่ 16 ครับ นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ ผ่านการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยมีกฎหมายควบคุม และรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา

ข้อที่ 17 ครับ ส่งเสริมเกษตรและปศุสัตว์ปลอดภัย ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มการเข้าถึงตลาดเทคโนโลยี และแหล่งน้ำ สร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกร เพื่อวางแผนการผลิต และรักษาผลประโยชน์เกษตรกร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ

ข้อที่ 18 ครับ แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน

ข้อที่ 19 ครับ ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพ ให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรม สอดคล้องกับค่าครองชีพและการเติบโตของเศรษฐกิจ

ข้อที่ 20 ครับ ยกระดับระบบสาธารณสุข เพื่อทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ทั้งการส่งเสริม การป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟูสุขภาพ

ข้อที่ 21 ครับ ปฏิรูประบบการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ข้อที่ 22 ครับ สร้างความร่วมมือและกลไกภายในและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ หรือที่เรียกว่า Net Zerol โดยเร็วที่สุด

ข้อที่ 23 ครับ ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ โดยการฟื้นฟูบทบาทผู้นำของไทยในอาเซียนและเวทีระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือต่าง ๆ โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือพหุภาคี รวมถึงรักษาสมดุลการเมือง ระหว่างประเทศไทยและประเทศมหาอำนาจ”

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล แถลงร่วมกับอีก 7 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล 22 พ.ค. 2566