ค่าฝุ่น 14 จังหวัดยังพบเกินมาตรฐาน 29 จุด เมื่อ 17.00 น. กรมควบคุมมลพิษคาดฝุ่นเหนือ “สาหัสยาวถึง 7 เม.ย.” ขณะแผนที่จุดความร้อน GISTDA เผยบ่ายนี้ จุดความร้อน สปป.ลาว พุ่ง
นายกฯ แถลงอีกผ่านโฆษกฯ “อาเซียนบอกพร้อมช่วยขับเคลื่อน-ผ่านกลไกอาเซียน”
ทนาย“ภูมิ” เสนอ “ร้องศาลรัฐธรรมนูญ เอาผิดนายก” ด้าน สภาลมหายใจเชียงใหม่เสนอสาธารณะ “13 ข้อเสนอนโยบายแก้มลพิษฝุ่นที่ต้องการ”

จังหวัดเหนือตอนบน “ยังสาหัส” – จุดความร้อนลาวเพิ่มบ่ายนี้
“พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน (เริ่มมี-มีผลต่อสุขภาพประชาชน) รวม 29 จุด (จากการตรวจวัดทั้งหมด 32 จุด)ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคเหนือ
โดยมากสุดที่เชียงใหม่ 6 จุด รองลงมาลำปาง 4 จุด เชียงรายและแม่ฮ่องสอนจังหวัดละ 3 จุด ลำพูนและน่าน 2 จุด และจังหวัดละจุดใน กำแพงเพชร ตาก พะเยา พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และแพร่” Air4Thai รายงานเมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (31 มี.ค. 2566)

ขณะที่ ข้อมูลดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS แสดงให้เป็นถึงจำนวนจุดความร้อนที่เพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้อย่างชัดเจน ทั้งในเชิงปริมาณ และพื้นที่ที่ขยายเพิ่มจากช่วงเช้าที่จุดความร้อนพบในเมียนมาและไทยเป็นหลัก ในช่วงบ่ายพบจุดความร้อนขยายเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญในเขต สปป.ลาว
คาดฝุ่นเหนือ “สาหัสยาวถึง 7 เม.ย.”
“1 – 6 เม.ย. 2566 เป็นต้นไปสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลยังคงมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่
พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 1 – 7 เม.ย. 2566 อย่างไรก็ตามระหว่างวันที่ 1- 3 เม.ย. 2566 สถานการณ์อาจบรรเทาลงได้บ้างเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น” กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM2.5

“อาเซียนบอกพร้อมช่วยขับเคลื่อน-ผ่านกลไก” นายกฯ
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน ที่เป็นความท้าทายที่รุนแรงของภูมิภาค พร้อมขอรับการสนับสนุนจากเลขาธิการอาเซียนในการผลักดันการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยขอให้ช่วยประสานหารือ หรือสนับสนุนการจัดการประชุมจัดอย่างเร่งด่วนกับประเทศสมาชิกเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะการลดจำนวนจุดความร้อน (hotspot) ให้สถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้นให้ได้โดยเร็ว เพราะส่งผลไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย ทั้งทางสุขภาพ และการท่องเที่ยว
ซึ่งเลขาธิการอาเซียนกล่าวเห็นด้วยถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งอาเซียนมีกลไก (mechanism) ที่จะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือ และพร้อมสนับสนุนให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว”
อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดร. เกา กิม ฮวน (Dr. Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วานนี้ (30 มี.ค. 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล

“ภูมิ” เสนอ “ร้องศาลรัฐธรรมนูญ เอาผิดนายก”
ภูมิ วชร เจริญผลิตผล ผู้ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองจังหวัด เนื่องจากรัฐบาลได้ปล่อยปละละเลยในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 จนทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีคำสั่งยกฟ้องเมื่อ 28 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา ได้เปิดเผย ผ่านเฟสบุ๊ก กูร์ มัว วานนี้ โดยเห็นว่า ควรมีการนำเรื่องไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าการที่รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้พื้นที่ภาคเหนือมี PM 2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่องหลายวันขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
“จากประสบการณ์นำปัญหา PM 2.5 ไปฟ้องเป็นคดีต่อศาลปกครองที่ผ่านมา เห็นชัดว่าปัญหา PM 2.5 ช่วงฤดูร้อนในระยะเวลาต่อเนื่องมากกว่า 3 ปีมานี้ไม่ได้รับการแก้ไขโดยรัฐบาล แม้มีประชาชนจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา เพราะ PM 2.5 มีอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต
การเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา PM 2.5 โดยความเห็นผมต้องทำให้การเรียกร้องดังกล่าวมีสภาพบังคับให้รัฐบาลต้องแก้ปัญหาโดยผ่านองค์กรที่มีอำนาจออกคำสั่งบังคับรัฐบาลได้ และการที่ผมนำปัญหา PM 2.5 ไปฟ้องเป็นคดีต่อศาลที่ผ่านมาเพื่อหวังให้ศาลมีคำสั่งบังคับรัฐบาลแก้ปัญหา แต่การฟ้องคดีดังกล่าวแก้ปัญหาได้เฉพาะเหตุตามฤดูกาลเท่านั้น
ผมเห็นว่าจำเป็นต้องนำปัญหา PM 2.5 ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าการที่รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้พื้นที่ภาคเหนือมี PM 2.5 ในช่วงฤดูร้อนเกินมาตรฐานต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งเหตุการณ์มีมาต่อเนื่องหลายปี ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อรัฐบาลแก้ปัญหา PM 2.5 ให้ลดลงและหมดไปโดยเร็ว โดยกำหนดระยะเวลาเห็นผลชัดเจน
ด้วยเหตุที่ผมไม่มีสื่อ, มวลชน, และทุนทรัพย์ แต่เห็นประเทศมีปัญหา และตัองการมีส่วนร่วมกับประชาชนเรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหา ผมเลือกวิธีดังกล่าวซึ่งเหมาะสมกับสภาพและฐานะผม ผมหวังว่าวิธีเรียกร้องของผมนี้แม้ทำโดยลำพังคนเดียวจะทำให้บังคับรัฐบาลแก้ปัญหา PM 2.5 ได้” ภูมิ วชร เปิดเผย

13 ข้อเสนอนโยบาย “สภาลมหายใจเชียงใหม่”
“PM2.5 มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แนวโน้ม 16 ปีที่ผ่านมา จากงานวิจัย มีผู้สูญเสียชีวิตอย่างน้อย ปีละ 40,000 คน ผมเชื่อว่าจะมากขึ้น ภาคธุรกิจคุยให้ฟังว่าปัญหาฝุ่นส่งผลกระทบเศรษฐกิจปีละนับแสนล้าน และมีผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนอย่างยิ่ง
ซึ่งเป็นชะตากรรมที่รับผิดชอบ แต่รัฐบาลชุดนี้พิสูจน์แล้วว่าแก้ไม่ได้” ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ สภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวใน เวทีนโยบายสาธารณ: ข้อเสนอภาคประชาสังคมด้านนโยบายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติต่อพรรคการเมือง ที่จัดขึ้นวานนี้ (30 มี.ค. 2566)
โดยชัชวาลย์เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาหลาย ๆ ด้าน แบ่งเป็น
- ต้องมีการศึกษาหาที่มาของแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ให้แน่ชัด มาจากในประเทศ และนอกประเทศเท่าไหร่
- ต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับประชาชน เนื่องจากปัจจุบัน ชาวบ้านในพื้นที่ยังไม่รู้ว่า ทางภาครัฐดำเนินการชิงเผา ทำแนวกันไฟ ตรงไหน
- สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง PM2.5 อย่างชัดเจนต่อประชาชน
- ต้องออกกฎหมายบริหารจัดการอากาศสะอาด ปัจจุบันใช้กฎหมายป้องกัน บรรเทาสาธารณภัยที่ยังล้าหลัง
- เปลี่ยนการแก้ปัญหาโดยสั่งการจากบนลงล่าง เป็นการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ให้ชุมชนเป็นแกนหลัก องค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นแกนประสาน ภาคส่วนอื่น ๆ ร่วมสนับสนุน โดยเป็นการแก้ปัญหาตามสภาพ และบริบทของพื้นที่จริง
- มีนโยบายปลดล็อกให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีน้อยเกินไปไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน
- เสนอการจัดการบริหารเชื้อเพลิง ให้การใช้ไฟทุกระบบเข้ามาสู่ระบบการควบคุม ชาวบ้านเผาที่ไหนก็ต้องเข้ามาสู่ระบบ รัฐเผาที่ไหนก็ต้องเข้ามาสู่ระบบการจัดการบริหารเชื้อเพลิง และการบริหารเชื้อเพลิงของรัฐต้องเปิดเผย และโปร่งใส
- ต้องมีนโยบายการลดพืชเชิงเดี่ยวในประเทศ และต้องมีมาตรการจัดการกับบริษัทที่ลงทุนพืชเชิงเดี่ยวในต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบกลับมาถึงในประเทศ
- ต้องมีการติดตั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศทุกตำบล
- ต้องมีการประกาศภาระวิกฤตทางสุขภาพ เมื่อคุณภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างชัดเจน รวมถึงต้องมีระบบสวัสดิการในการดูแลรักษาด้วย เพราะปัจจุบันประชาชนดูแลตังเองทั้งหมด
- เสนอพลังงานสะอาด ขนส่งมวลชน โรงงานอุตสาหกรรม ต้องปลอดมลพิษ โดยจูงใจโดยใช้นโยบายลดหย่อนภาษีก้าวหน้า
- เลิกปลูกป่าในป่า เพราะเป็นการทำลายป่ามากมาย แต่ต้องหันมาเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง และต้องจัดการบริหารพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน
- เสนอให้มีนโยบายสนับสนุนการรวมตัวกันของทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหามลพิษ เพราะว่าทุกคนมีส่วนในการสร้างมลพิษ ทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย
รับชม เวทีนโยบายสาธารณ: ข้อเสนอภาคประชาสังคมด้านนโยบายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติต่อพรรคการเมือง