6 ประเด็น หน่วยงานรัฐแถลง “ซีเซียม-137 หาย” มีอะไรชัดเจนขึ้นบ้าง

หลังจากการแถลงข่าวยาวกว่า 2 ชั่วโมง ที่ครึ่งแรกถูกวิจารย์ยับ “ไม่เข้าเรื่องสักที” มีความชัดเจนมากขึ้นราว 6 ประการจากผู้แทนภาครัฐและผู้เข้าร่วมรับฟัง ที่สาธารณะควรจับตาและสนใจ ด้วยเป็นข้อมูลที่น่าจะส่งผลต่อการดำเนินการใด ๆ ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ นับจากนี้ในระดับสำคัญ

  1. “ยังไม่แน่ใจ ว่าซีเซียม-137 ที่หายไปไหม” ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
  2. “ไม่ยืนยันว่าใช่ซีเซียมที่หายไป แต่คลำถูกทางแล้ว” สำนักพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
  3. “พบซีเซียม137ในฝุ่นแดง ผลผลิตจากโรงหลอมระบบปิด ไม่พบปนเปื้อนด้านนอก เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม” สำนักพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
  4. “ตกลง #ยังหาซีเซียม137ไม่เจอ ใช่ไหม แค่คาดว่าที่เจอน่าจะใช่? เมื่อไรจะเจอ ใครจะรับผิดชอบ” วิโรจน์ น้อยสำเนียง นายกสมาคมจิตอาสาพัฒนาปราจีนบุรี 
  1. “ไม่มีการฟุ้งกระจายสู่สิ่งแวดล้อม คน กบินทร์บุรีศรีมหาโพธิ์ไม่ได้รับผลกระทบ” สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ 
  2. “ข้างในปนเปื้อนจริง ข้างนอกไม่มี ผมก็ยืนตรงนั้น เขาก็วัด(ระดับซีเซียม137)ตรงนั้น” ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี

1

 “ยังไม่แน่ใจ ว่าซีเซียม-137 ที่หายไปไหม” 

ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี

“ผมยังไม่แน่ใจ เพียงแต่ว่ามาเล่าให้ฟังว่า ณ วันนี้ เราเจอซีเซียมที่ผสมอยู่ในฝุ่นเหล็ก ที่มันไม่ใช่เป็นฝุ่นเหล็กแบบฟุ้งอยู่ทั่วไป ไม่ได้เป็นฝุ่นละอองข้างนอก แต่ว่าเป็นที่มันระเหยมาจากการหลอม และก็อยู่ในระบบปิด ปิดอยู่ในป้องกันที่อยู่ข้างใน แล้วมันก็จะเข้าไปสู่ตัวฟิลเตอร์กรอง พอกรองเสร็จมันก็จะหล่นลงมา แล้วพอเย็นลงแล้ว ซัก 2 – 3 วัน มันก็จะเป็นเกล็ด ๆ เล็ก ๆ ของเหล็ก เราไปเจอตรงนั้น 

พอไปเจอตรงนั้น ประกอบกับบริเวณนั้นเป็นบริเวณใกล้เคียงกับที่สูญหาย ห่างจากโรงงานประมาณ 10 กิโล แล้วเป็นช่วงเวลาที่เราหากันอยู่ ซึ่งถามทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ซีเซียม-137 มันไม่ใช่สารที่มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ 

เพราะฉะนั้นก็ต้องมาหากันว่า อย่างที่เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติบอก ว่ามันใช่ตัวที่เราตามหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็คือเจอในลักษณะอย่างนี้ ส่วนจะเป็นยังไง ทางผู้เชี่ยวชาญจะให้ข้อมูลอีกที ผมให้ข้อมูลจากที่เราเจอ” 

รณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวในการแถลงข่าวความคืบหน้า กรณีวัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม 137” วันนี้ ( 20 มี.ค.2566) เวลา 11.00 น. 

2

“ไม่ยืนยันว่าใช่ซีเซียมที่หายไป แต่คลำถูกทางแล้ว” 

สำนักพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ

“เรายังไม่ยืนยัน ว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานนี้แล้วก็เกิดมาเป็นซีเซียมฝุ่นเหล็ก โอเคไหม ยังไม่ยืนยัน เพราะว่าเราก็ต้องไปสืบต่อ 

ณ ขณะนี่เรามา ที่ทางสำนักงานปรมาณูเพื้่อสันติสนธิงานกับทางจังหวัด เพื่อเข้ามาตรวจซ้ำ แล้วเราเจอนี่ ก็ถือว่า เราก็พอจะคลำทางถูกแล้วว่าในบริเวณพื้นที่ปราจีนบุรี หรืออำเภอที่ห่างออกไปจากโรงไฟฟ้า ท่านอย่าลืมนะ 10 กิโล มันมีโอกาสจะเข้าสู่โรงหลอม เราเข้าไปตามตรวจเพื่อจะหาร่องรอยนี่แหละครับ 

แต่ว่าตรงนี้ต้องประกอบในหลักการสอบสวนของทางตำรวจว่า ต้องไปสอบต่อว่ามันเชื่อมกับการเอาออกมายังไงจากโรงงาน ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญ 

แล้วก็อีกประการหนึ่ง โรงหล่อ หรือโรงหลอมเหล็กทั่วประเทศรวมทั้งหมดที่เราไปตรวจ บางโรงก็ไม่มีเครื่องตรวจจับเศษเหล็กที่เขาซื้อ ก่อนเข้าสู่กระบวนการหลอม แต่บางโรงใหญ่ ๆ ของประเทศไทยเขามีหมด ระดับท็อป ๆ เขามีหมด แล้วก็ท่ีนี่บางโรงก็มี ที่เราไปค้นที่ปราจีนฯ บางโรงนี่เนี๊ยบเลย มีเช็คหมดว่า ถ้าเข้าไปตรวจเจอจะดีดออกมา แล้วกระบวนการในการรวบรวมเหล็กใน Big Bag ตัวนี้ เป็นกระบวนการปิดทั้งหมดไม่มีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวเลย 

เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คือจุดอ่อนของโรงงานหลอมเหล็กทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลางที่ท่านต้องไปติดตั้งเครื่องมือตรวจโลหะทุกประเภท ที่จะเข้าสู่ระบบการหลอม อันนี้จะเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุ อันนี้ท่านต้องมี ต้องมีเครื่องมือนี้เป็นอย่างน้อย ต้องมี แล้วเหล็กที่เข้าไปก็พยายามดูแต่เหล็กที่ไม่เข้ามาบดอันรวมกัน 

เพราะว่าถ้าบดอัดรวมกันมันจะเกิดการรบกวนการตรวจ ต้องเป็นชิ้น ๆ แล้วก็ตรวจ ตรวจ ตรวจ แล้วค่อยไปบดอัดทีหลัง กระบวนการบดอัดอย่าบดอัดมาก่อน ถ้าบดอัดมาก่อนบางทีมันอาจจะหาไม่เจอ เพราะว่าสิ่งที่เราต้องการอาจจะเข้าไปอยู่ตรงกลางเลย ตรงกลางลูกเต๋า มันก็จะโดน shielding (ป้องกัน)โดยธรรมชาติของมันเลย จะตรวจไม่เจอ อันนี้ฝากไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการคุมโรงงานหลอดเหล็ก และหลอะโลหะด้วย เพื่อว่าจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก

ทีนี้ซีเซียมที่ว่านี่ ที่อยู่ในโรงงานนี้ ที่เกิดเป็นฝุ่นเหล็ก แล้วผสมในฝุ่นแดงนี่ มันก็ไม่ทราบว่ามันเกิดจากวัตถุดิบอะไรที่โรงงานเอามาจากไหน เรื่องนี้เราไม่รู้จริง ๆ 

แต่มันก็ทำให้เราคลำทางถูกว่ามันมีจริง ๆ มันมีซีเซียมในปริมาณ ปริมาตรที่เหนือกว่า background จริง ๆ ในธรรมชาติ ประมาณ 3 หรือ 4 เท่า หรือ 10 เท่า ทำให้เราคลำทางย้อนกลับไปได้

ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เราไม่เจอ ถ้าเราไม่เจอต่างหากเป็นเรื่องที่ทำให้เราคลำย้อนกลับไปไม่ถูก” 

เพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวในการแถลงข่าวความคืบหน้า กรณีวัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม 137” วันนี้ ( 20 มี.ค.2566) เวลา 11.00 น. 

3

“พบซีเซียม137ในฝุ่นแดง ผลผลิตจากโรงหลอมระบบปิด ไม่พบปนเปื้อนด้านนอก เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม” 

สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

“จากการตรวจสอบ เราพบการปนเปื้อนของซีเซียม-137 ในฝุ่นโลหะที่ได้จากการผลิตโลหะ 

เราได้ทำการใช้เครื่องมือตรวจวัดโลหะที่เป็นผลผลิตจากการหลอมโลหะ ไม่พบการปนเปื้อนใด ๆ ซึ่งเป็นไปตามหลักการ ตามที่ท่านเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้เรียนให้สื่อมวลชนทุกท่านทราบ 

หลังจากนั้นเราได้ใช้เครื่องมือดูดอากาศตรวจวัดระดับรังสีบริเวณรอบ ๆ โรงงาน ในรัศมีที่ครอบคลุมประมาณ 5 กิโลเมตรรอบโรงงาน เราเก็บดิน น้ำ อากาศ ผลการตรวจสอบไม่พบการฟุ้งกระจาย ไม่พบการเปรอะเปื้อน ไม่พบผลกระทบที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด อันนี้คือข้อมูลจากเครื่องมือที่เราได้ทำการวิเคราะห์ และตรวจสอบ

เพราะฉะนั้นผมอยากจะยืนยันว่า วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่ปนเปื้อนในฝุ่นโลหะของโรงงานแห่งหนึ่ง ถูกควบคุม และจำกัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะ และไม่ได้มีการแพร่กระจาย หรือฟุ้งกระจายใด ๆ ออกจากพื้นที่โรงงาน จากข้อมูลที่ทางทีมผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้ทำการตรวจวิเคราะห์ เมื่อเช้านี้ ล่าสุด 

เราออกพื้นที่ตั้งแต่ 6 โมงเช้า เรามีทีมในการตรวจวัดระดับรังสีรอบโรงงานตามระยะทางที่ได้เรียนให้ทราบไปแล้ว (5 กิโลเมตรรอบโรงงาน) 

เราได้ทำการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนภายนอกร่างกายของพนักงานในโรงงาน ไม่พบการเปรอะเปื้อนใด ๆ ของพนักงานที่อยู่ในโรงงานที่เกิดการหลอมโลหะตรงนี้ 

เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นข้อมูลทางวิชาการที่เราใช้เครื่องมือในการตรวจสอบ เพื่อที่จะยืนยันผลกระทบทางรังสี 

และผมขอยืนยันว่า ณ ปัจจุบันนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เราได้ควบคุมสถานการณ์ และจำกัดการเปรอะเปื้อน การปนเปื้อนของซีเซียม-137 อยู่ในเฉพาะพื้นที่ของตัวฝุ่นโลหะ หรือฝุ่นแดงที่ปนเปื้อนซีเซียม-137 เท่านั้น

ตรงนี้ก็เป็นข้อมูลที่อยากเรียนให้ทุกท่านทราบ 

รวมไปถึง จากที่ผมได้รายงานเลขาสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเมื่อเช้านี้ ล็อตก่อนหน้าที่ฝุ่นเหล็กถูกนำส่งออกไปยังโรงงานแห่งหนึ่ง เราได้ส่งทีมของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติประจำศูนย์ปรมาณูภูมิภาคที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ยืนยันว่าไม่มีการเปรอะเปื้อนของซีเซียม-137 ในฝุ่นเหล็กที่ถูกส่งออกมาล็อตก่อนหน้านี้ ตรงนี้เป็นข้อมูลทางวิชาการ และเป็นข้อมูลที่ยืนยันจากเครื่องมือ จากอุปกรณ์ทั้งหมดที่เราได้ทำการตรวจสอบ ขอเรียนให้ทุกท่านทราบ” 

กิตติ์กวิน อรามมรุญ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าว

4

“ตกลง #ยังหาซีเซียม137ไม่เจอ ใช่ไหม แค่คาดว่าที่เจอน่าจะใช่? เมื่อไรจะเจอ ใครจะรับผิดชอบ” 

วิโรจน์ น้อยสำเนียง นายกสมาคมจิตอาสาพัฒนาปราจีนบุรี 

“ผมวิโรจน์ น้อยสำเนียง นายกสมาคมจิตรอาสาพัฒนาปราจีนบุรี อดีตนายกสมาคมพลเมืองนครนายก ที่มีเหตุเรื่องนิวเคลียร์องครักษ์ เพราะฉะนั้นก็ตามเรื่องนี้มาพอสมควร 

ประเด็นก็คือว่า ฟังให้ชัดนะครับ ประเด็นคือ ศพซีเซียม-137 ยังหาไม่เจอ ชัดไหมครับ 

ถ้าหากเจอชัดเจนต้องมีรูปร่าง ต้องมีรูปลักษณ์ชัดเจนให้เจอ เพียงแต่อนุมานไว้ว่าใช่ ณ ตอนนี้ แล้วข้อสำคัญก็คือ อุปกรณ์ที่ท่านใช้วัดระยะห่างระหว่างอุปกรณ์กับสิ่งที่วัด มันไม่น่าจะวัดซีเซียม-137 ได้ ที่มันออกมาชัดเจน นี่คือสิ่งที่เราเรียนรู้กันมา

ประเด็นที่ 2 ที่ผมเป็นห่วงก็คือว่า ณ ตอนนี้ยังหาตัวจริง ๆ ตัวเป็น ๆ ของซีเซียม-137 ไม่เจอ ใครเป็นคนเอาออก ใครเป็นคนสั่ง มันผ่านมากี่มือ มันผ่านคนมากี่คน มันฟุ้งกระจายไปเท่าไหร่ มันจะเป็นภัยต่อคนปราจีนบุรีอีกเท่าไหร่ 

คำถามก็คือว่าคนของรัฐ บุคลากรของรัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับผิดชอบต่อสังคมในวงกว้างอย่างชัดเจนได้อย่างไร คำตอบสุดท้ายคือเมื่อไหร่” 

วิโรจน์ น้อยสำเนียง นายกสมาคมจิตอาสาพัฒนาปราจีนบุรี ตั้งคำถามระหว่างการแถลงข่าวความคืบหน้า กรณี #วัสดุกัมมันตรังสี “#ซีเซียม137” วันนี้ ( 20 มี.ค.2566) เวลา 11.00 น. 

5

“ไม่มีการฟุ้งกระจายสู่สิ่งแวดล้อม คน กบินทร์บุรีศรีมหาโพธิ์ไม่ได้รับผลกระทบ” 

สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ 

“ผมใช้หลักวิชาการ ผมใช้เครื่องมือ วัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหาย ผมโฟกัสที่ตัวที่สูญหายก่อนนะครับ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในสภาพเดิม เครื่องมือที่เราใช้ในการตรวจสอบ ปัจจุบันนี้เครื่องมือที่เราใช้ในการตรวจสอบยังสามารถที่จะวัดระดับรังสีที่มันแผ่ออกมาในระยะ 1 เมตรได้ ขอให้ท่านที่ถามผม มีความชัดเจนในประเด็นนี้ 

ไม่ใช่ว่าเครื่องมือไหนตรวจสอบซีเซียม-137 ไม่ได้ ซีเซียม-137 มีค่าพลังงานเฉพาะของเขา เพราะฉะนั้นเราสามารถใช้เครื่องมือที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติมีอยู่ เพื่อตรวจสอบได้ 

สิ่งที่ท่านกำลังจะบอกว่ามันมีการฟุ้งกระจาย ผมยืนยัน ผมเป็นคนลงพื้นที่ตรวจสอบเอง ขอให้ท่านมีความเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามที่จะอธิบาย ว่าไม่มีการฟุ้งกระจายสู่สิ่งแวดล้อม 

ประชาชนรอบพื้นที่โรงงาน ในอำเภอ #ศรีมหาโพธิ อำเภอ #กบินทร์บุรี และจังหวัด #ปราจีนบุรี ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีการเปรอะเปื้อน หรือการปนเปื้อนของซีเซียม-137 ในโรงงานหลอมโลหะนี้ครับ” 

กิตติ์กวิน อรามมรุญ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ตอบคำถามคนในพื้นที่ 

6

 “ข้างในปนเปื้อนจริง ข้างนอกไม่มี ผมก็ยืนตรงนั้น เขาก็วัด(ระดับซีเซียม137)ตรงนั้น” 

ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี

“ผมก็จะคล้าย ๆ กับพวกเราที่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือไม่ใช่ เพราะว่าก็จะมีความรู้เท่า ๆ กับพวกเรา ก็คงจะต้องพึ่งทางผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเขาก็ยืนยัน ว่าในโรงงานในปัจจุบันนี้ ไม่มี

จากภาพตรงที่ไปยืน ๆ กันนี่ มองไกล ๆ ตรงตัวท่อ เขาอธิบายว่า พอลงเป็นฝุ่นเหล็กนี่ มันก็จะขึ้นมาจากทางด้านซ้ายไปทางขวา จะเห็นท่อเหลือง ๆ ทางด้านปลาย แล้วตรงเขียว ๆ ที่อยู่ตรงกลางจะเป็นฟิลเตอร์ที่จะดักจับฝุ่น แล้วฝุ่นนี่มันก็จะลงไปข้างล่าง 

ฝุ่นไม่ได้ออกฟุ้งกระจายไปข้างนอกนะ มันก็ลงมาอยู่ตรงนั้น มันเป็นฝุ่นเหล็กไง มันไม่ใช่ฝุ่นละอองปกติ มันก็อยู่ในระบบ แต่บังเอิญเราเรียกมันว่าฝุ่นเหล็ก ที่มันจะร้อน ๆ สีแดง พอมันเย็นมันก็จะเป็นสีเหล็กธรรมดา มันก็ตกไป แล้วเขาก็เก็บตรงนี้

ตรงนี้ที่มีเส้นกั้นไว้ก็จะอยู่ข้างล่างของท่อเมื่อกี้ เขาก็เก็บตัว big bag ที่ว่าไว้ ตอนนี้เขาก็กันพื้นที่ไว้หมด ผมก็ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปวัดข้างในว่าได้เท่าไหร่ 

ส่วนข้างนอก ผมก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ตรงที่นอกเหนือจากเส้นที่กั้นไว้ พอวัดแล้วมันไม่มีขึ้นมา แต่ข้างในให้เจ้าหน้าที่เดินเข้าไปมันขึ้น คือต้องเข้าไปใกล้ ๆ นะ ใกล้ ๆ ตัว big bag มันถึงจะขึ้นยืนยันว่าใช่ ผมก็ไปยืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วก็มาดูแล้ว ว่าเป็นไงก็เป็นกัน เพราะว่าจะได้ทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่า เข้าไปอยู่ตรงนี้มันไม่ออกมาข้างนอก 

แล้วก็ทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติก็จะดูรอบ ๆ ภายในบริเวณโรงงานก็ไม่มีตัวอันนั้นขึ้น แล้วก็ดูข้าง ๆ ที่เป็นหมู่บ้านเป็นชุมชน ซึ่งก็จะมีตัวรถที่วิ่งสำหรับการตรวจอยู่รอบ ๆ ทั้งแหล่งน้ำทั้งแหล่งอากาศ ก็ขับรถวนไป ตอนนี้ยังไม่พบ ตอนนี้พบแต่แค่ที่อยู่ในพื้นที่เท่านั้น แค่ที่ตรงกันไว้เท่านั้น แล้วผมก็ไปยืนอยู่ข้าง ๆ 

(ก็โดยสรุปก็คือไม่ได้เป็นอันตรายขยายวงกว้าง แต่จะถูกทำลาย หรือไม่ทำลาย ที่ออกมาเป็นฝุ่นแดงก็จะอยู่แค่บริเวณนี้ไม่ไปไหน ไม่ได้ไปทำอันตรายต่อใคร อันนี้คือเข้าใจถูกต้องใช่ไหม?)

ผมก็เข้าไปยืนอยู่ข้าง ๆ หน้าประตู แล้วก็ให้เขาวัดดู ว่าใช่หรือไม่ใช่ ขึ้นหรือไม่ขึ้น ก็จากที่ยืนอยู่ข้างนอกเส้น ค่าก็เกือบจะไม่ขึ้นเลย แต่พอให้เขาเข้าไปวัดข้างในมันก็จะขึ้นตามที่เห็น แต่ว่าก็ต้องเข้าไปวัดใกล้ ๆ ตัว big bag ส่วนข้างนอกได้ทำการวัดทั้งหมดละ ไม่มี”

รณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าว