“จับตา 16 เม.ย” กรมโรงงานเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่ ศูนย์ขยะอ่อนนุชฯ

มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อมเผย “กรมโรงงานยอมรับปัญหามีจริง-สั่งปิดปรับปรุงอยู่ถึง 16 เม.ย-ยังไม่ชัดจะดำเนินการอย่างไรต่อหากบริษัทผู้รับผิดชอบ “กรุงเทพธนาคม” ยังแก้ปัญหาไม่ได้-ยันต้องเพิกถอนใบอนุญาต-เล็งฟ้องศาลปกครองหากจำเป็น” 

ชี้ “คำสั่งคสช.” ต้นตอปัญหาทั้งหมด เสนอ “จัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง-ทำ EIA-ทบทวนกฎหมาย-ยกเลิกคำสั่ง 4/2559”

(ภาพ : EnLAW)

กรมฯ ยอมรับ “มีปัญหาจริง-สั่งปิดแก้ไขอยู่”

“หลังจากรับหนังสืออธิบดีก็ตอบว่าได้ติดตามประเด็นปัญหา โดยกรมฯ ได้มีการดำเนินการสั่งปิดและปรับปรุงหลายรอบแล้ว ถ้าชุมชนคิดว่ายังมีความเดือดร้อนอยู่ ก็จะมีการนัดหมายกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง

และบอกว่าอาจจะวางแผนเข้าไปตรวจสอบในช่วงนี้ ที่ศูนย์ขยะดังกล่าวปิดทำการอยู่ เพื่อที่จะดูว่าในช่วงที่ไม่มีขยะอยู่ สภาพของศูนย์ฯ เป็นอย่างไรบ้าง” 

สุภาภรณ์ มาลัยลอย ผู้จัดการมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) เปิดเผยกับ GreenNews ถึงผลการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ล่าสุด ต่อกรณี “ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช”

เช้าวานนี้ (14 มี.ค. 2566) ประมาณ 10:00 น. ผู้แทนจาก EnLAW ได้ร่วมกับตัวแทนประชาชนจากชุมชนอ่อนนุชราว 10 คน เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ถ.พระรามที่ 6 

เพื่อเรียกร้องให้อธิบดีกรมโรงงานฯ ใช้อำนาจเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานของ “บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด” ผู้รับผิดชอบดำเนิน “โครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน ณ ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช” และขอให้สั่งปิดโรงงานเป็นการถาวร ด้วยเหตุผลสำคัญ ศูนย์กำจัดขยะดังกล่าวส่งกลิ่นเหม็นรบกวน สร้างผลกระทบต่อประชาชนผู้อยู่อาศัยรอบ ๆ 

ทั้งนี้ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปิดปรับปรุงชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาที่ถูกร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 16 เม.ย.2566 ตามคำสั่งกรมโรงงานฯ ล่าสุด

“ผู้ที่มาออกมารับหนังสือ และร่วมพูดคุยกับตัวแทนชุมชนจากรมโรงงาน มี จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อัญชลี ยิ่งทวีสิทธิกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม จินดา เตชะศรินทร์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ภัทรพล ลิ้มภักดี ผู้อำนวยการกองบริการงานอนุญาตโรงงาน 2 และจุฬารัตน์ มณีเสถียรรัตนา เลขานุการกรม” สุภาภรณ์กล่าว

จุลพงษ์ ทวีศรี (ภาพ : EnLAW)

ลุ้นต่อ “เพิกถอนใบอนุญาต หากแก้ไม่สำเร็จ”

“ในทางกฎหมายถ้าสั่งให้ปิดปรับปรุงไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ทางกรมโรงงานฯ ก็มีอำนาจในการสั่งให้ยกเลิกเพิกถอนใบอนุญาตได้เลย ซึ่งเราก็ได้ยืนยันไปแล้ว

กรมฯ ยังไม่ตอบชัดเจน อธิบดีกรมโรงงานฯ ก็ตอบว่าในทางอำนาจหน้าที่ก็เป็นไปตามนั้น แต่ว่าก็ต้องดูรายละเอียดรอบนอกด้วย จึงยังไม่ได้รับปากชัดเจน” 

สุภาพรกล่าวถึงการเจรจากับผู้บริหารกรมโรงงานฯ วานนี้ ในประเด็นทิศทางการจัดการ หากครบกำหนดแล้ว ศูนย์กำจัดขยะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะมีคำสั่งปิดถาวรหรือไม่

โรงกำจัดมูลฝอยเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า รับผิดชอบโดย บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (ภาพ : สุภาพร ธรรมประโคน / Voice online)

เล็งฟ้องศาลปกครอง “เพิกถอนใบอนุญาต”

“ถ้าโรงงานไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก็ควรจะย้ายออกไป 

กิจการประเภท 106 หรือประเภทกิจการการจัดการขยะ ควรต้องคำนึงถึงมาตรการทางสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนมากกว่านี้ ปัจจุบันกิจการในลักษณะนี้เป็นกิจการที่ไม่ต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 

ปัจจุบันแม้ว่ารัฐบาลจะมี road map ในการจัดการขยะ แต่ว่าการที่ลดทอนมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มีคำสั่งที่ 4/2559 ยังคงอยู่ ทำให้กิจการขยะซึ่งไม่ใช่แค่ที่อ่อนนุชเท่านั้น แต่ว่าในหลายพื้นที่ที่อนุญาตให้ตั้งอยู่ในชุมชนได้ ก็เป็นส่วนสำคัญให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน

การจัดการขยะถือว่าเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ต้องมีการดำเนินการ แต่จะต้องมีมาตรการที่รอบคอบมากกว่านี้ นอกจากนั้นมาตรการอย่างเช่น การจัดการคัดแยกขยะ การดำเนินการจัดเก็บขยะ ยังไม่ถูกทำให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากกว่าโรงงานขยะที่เป็นการจัดการที่ปลายทาง 

สำหรับความเคลื่อนไหวต่อไปของทางเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบ ถ้าภายหลัง 16 เม.ย. 2566 ทางกรมโรงงานฯ ยังไม่ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตอนุญาตประกอบกิจการโรงงานของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด การดำเนินการใช้สิทธิในการฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาต คือสิ่งที่เครือข่ายกำลังพิจารณาหารือกันล่าสุด” ผู้จัดการมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อมเปิดเผย 

เจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานฯ เข้าตรวจสอบโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน ของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เมื่อ 29 เม.ย. 2565 (ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ)

เสนอ “จัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง-ทำ EIA-ทบทวนกฎหมาย-ยกเลิกคำสั่ง 4/2559”

“1. เราเห็นว่ามาตรการจัดการขยะต้องดำเนินการตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งเรายังไม่เห็นมาตรการตั้งแต่ต้นทางซึ่งก็คือ การคัดแยกขยะ

2. โรงงานอุตสาหกรรม ประเภท 105 (โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการคัดแยก หรือฝังกลบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ฝังกลบสิ่งปฏิกูล และวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เป็นของเสียอันตราย และไม่อันตราย) ประเภท 106 (โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม)

ต้องเป็นกิจการที่ต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) เพราะจะได้มีการประเมินได้ว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร และทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น

3. สำหรับกฎหมายเฉพาะ พ.ร.บ. โรงงาน ก็ควรมีการทบทวนกฎกระทรวงฉบับที่ 2 ที่กล่าวถึง ระยะห่างระหว่างโรงงานกับชุมชน ควรจะต้องมีการประเมินว่ากฎกระทรวงที่กำลังใช้อยู่มีปัญหาหรือไม่ ทำไมกฎหมายเฉพาะของกรมโรงงานฯ เองก็ยังไม่สามารถเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนได้

4. และต้องยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 ด้วย” สุภาภรณ์ เสนอมาตรการเพื่อไม่ให้โรงงานที่จะสร้างผลกระทบอย่างเช่นที่อ่อนนุชเกิดขึ้นอีก” สุภาภรณ์ เปิดเผย

(ภาพ : กรมโรงงานอุตสาหกรรม)

“คำสั่งคสช.” ต้นตอปัญหา

“พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าขยะได้ แต่ว่าเป็นเพราะ คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 ทำให้มีการยกเว้นคำสั่งผังเมือง จนสามารถดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าขยะในบริเวณนี้ได้

“(ส่งผลให้ต้องตามแก้ปัญหาเป็นจุด ๆ ตามอาการ) กรมโรงงานฯ เองก็สั่งปิดให้แก้ไขปัญหามาแล้วหลายรอบ แต่ว่าปัญหาก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราจึงคิดว่าปัญหาหลักมันคงอยู่ที่ พื้นที่ดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการสร้างโรงงานขยะตั้งแต่ต้น การใช้อำนาจพิเศษมาสร้างโรงงานในพื้นที่ชุมชน มันสะท้อนอย่างชัดเจนว่า เมื่อเลือกพื้นที่ตั้งไม่เหมาะสม ผลกระทบจะยากต่อการแก้ไข โดยเฉพาะผลกระทบต่อชุมชน

ปัญหาดังกล่าวมาจากการใช้อำนาจพิเศษ และตัวกลไกตรวจสอบปกติอย่างกรมโรงงานฯ ก็ไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นสาระสำคัญ เนื่องจากตาม พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2562 ก็มีกฎกระทรวงฉบับที่ 2 ที่ระบุว่า ไม่ควรจะมีกิจการในลักษณะนี้อยู่ใกล้ชุมชน” ผู้อำนวยการมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์

ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช มีพื้นที่ 580 ไร่ รองรับขยะ 3,400 – 4,000 ตันต่อวัน การดำเนินการภายในศูนย์ฯ แบ่งผู้รับผิดชอบออกเป็น 4 ส่วนตามลักษณะงาน คือ สถานีขนถ่ายมูลฝอย โรงจำกัดมูลฝอยด้วยการหมักปุ๋ยอินทรีย์ โรงกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อด้วยความร้อนสูง และโรงกำจัดมูลฝอยเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า 

โรงงานที่ถูกร้องเรียนในครั้งนี้คือ โรงกำจัดมูลฝอยเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ของ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ โรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะชุมชน (RDF) โรงงานผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำหมักขยะมูลฝอย และ โรงงานผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ ภายใต้โครงการจ้างเหมาบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน ของกรุงเทพฯ

“โรงงานดังกล่าวถูกชาวบ้านร้องเรียน และถูกสั่งให้แก้ไขตลอด 4 ปีที่ผ่านมา 

หลังจากโรงงานเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคม 2562 เริ่มมีการร้องเรียนในส่วนโรงงานที่ 1 ก่อน ซึ่งเป็นโรงงานที่มีชุมชนอยู่รายล้อม จึงมีการสั่งให้โรงงานหยุดดำเนินงาน และแก้ไขในปี 2563

ในปี 2564 มีเรื่องร้องเรียนอีกครั้ง จึงมีการสั่งให้มีการแก้ไขทั้ง 3 โรงงาน จนมาในปี 2565 ได้สั่งให้หยุดโรงงานและสั่งให้แก้ไขอีก โดยให้โรงงานส่วนที่ 1 หยุดดำเนินงาน และสั่งให้โรงงานส่วนที่ 2 และ 3 ปรับปรุงแก้ไข 

ปีนี้ 2566 ยังคงมีปัญหาอยู่และคำสั่งให้แก้ไขจะครบกำหนดในเดือนเมษายน 2566 นี้” ประชาไท รายงาน