“อรรถพล” ไฟแรง ประกาศ 8 นโยบายเร่งด่วน รวมถึง “จัดการส่วย-หลีเป๊ะ”

เปิดแถลงข่าวเป็นภารกิจแรกของวันแรกการทำงานในฐานะรักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ “อรรถพล เจริญชัญษา” ประกาศ 5 นโยบาย “จัดการภายในกรม” พร้อม 3 นโยบาย “งานกรม” 

แจงทิศจัดการสองกรณีร้อน “ส่วยอุทยาน-ที่ดินหลีเป๊ะ” เผยจะเดินหน้าจัดการ “ที่ทำกินในเขตป่า-ไฟป่า-ช้างป่า” เป็นสามเรื่องแรก

ขณะสภาลมหายใจฯ เสนอ 3 เรื่อง “ขอจัดการเร่งด่วน เพื่อหยุดวิกฤตไฟป่า-หมอกคันภาคเหนือ”

อรรถพล เจริญชัญษา (ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

แจงเหตุผลการถูกโยกย้าย

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้มอบหมายให้มาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่สามารถทำงานได้เลย จึงใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการออกคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและต่อเนื่องในการทำงาน”

อรรถพล เจริญชัญษา รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชกล่าว กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในวาระการเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเวลา 9.00 น. วันนี้ (26 ม.ค. 2566) ถึงเหตุผลการถูกโยกย้ายจากอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมารักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ อย่างเร่งด่วน จากการลงนามของ “วราวุธ ศิลปอาชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) วานนี้ (25 ม.ค. 2566) และมีผลทันที

“ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับรมว.มาระยะหนึ่งแล้ว (ก่อนมีคำสั่งโยกย้าย)” อรรถพลกล่าว พร้อมชี้แจงประเด็นที่ถูกมองว่าเป็น “เด็ก” หรือสายตรง รมว.วราวุธ ว่า “หากจะมองลักษณะนี้ ตนเองก็เป็นเด็กของทุกคน รวมถึงเด็กของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้บังคับชาสูงสุดด้วย ไม่กังวลหากรัฐบาลหมดวาระจะทำให้เรื่องนี้หยุดชะงัก เพราะเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ” 

(ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

ประกาศทันที “8 นโยบายเร่งด่วน”

“สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการ จะเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันของผู้บริหารและเจ้าหน้าทร่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งมีเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนพร้อมกัน 8 เรื่อง คือ 

1. การปรับปรุง แก้ไขการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมโดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเปลี่ยนแปลงแก้ไขซึ่งผมจะเซ็นคำสั่งนี้เป็นคำสั่งแรก 

2. การทำงานอย่างโปร่งใส แผนการทำงาน ต้องมีความโปร่งใสถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ ยกระดับความเข้มข้นในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ป้องกันปรามปรามการบุกรุกพื้นที่ และยกระดับชุดปฏิบัติการให้มีความเข้มแข็ง

3. การจัดการที่ดินทำกิน ภายใต้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เพื่อประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ และเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน 

4. การป้องกันไฟป่า เพิ่มการปฏิบัติอย่างเต็มที่ในการป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่า ร่วมกับเครือข่ายประชาชน  

5. โครงสร้างการทำงานของกรมอุทยานฯ โดยให้แต่ละพื้นที่บริหารเชิงพื้นที่มากขึ้นในรูปแบบ Single Command ปรับบุคลากรให้มีความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน 

6. การสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน ต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ดี ร่วมกันทำสิ่งที่ดี  สร้างความมั่นใจให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานของกรมอุทยานฯ  

7. รวมถึง เข้ามาดูแลสวัสดิการและค่าตอบแทนของผู้พิทักษ์ป่าให้จริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะเงินช่วยเหลือการลาดตระเวน 

8. และสุดท้าย ผลักดันกองทุนจัดการปัญหาช้างป่า เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าและช่วยเหลือช้างป่าอย่างรวดเร็ว

โดยจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นให้เร็วที่สุด โดยกล่าวว่าจะต้องเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์” อรรถพล แถลง

สองเรื่องด่วน “โยกย้ายไม่เป็นธรรม-กู้ภาพลักษณ์กรม”

“ได้รับการกำชับจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาเร่งแก้ปัญหาภายในกรม โดยเน้นย้ำ 2 เรื่องหลัก คือ ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับกระทบโยกย้ายไม่เป็นธรรม และความโปร่งใสถูกต้องในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณและจัดเก็บรายได้ของกรมอุทยานฯ ที่ต้องสามารถตรวจสอบและเปิดเผยต่อสาธารณะได้

การแก้ไขปัญหาของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม หลังจากที่เมื่อวานผมได้คุยกับท่านรองทั้ง 2 ท่าน วันนี้ก็ได้มีการยกร่างคำสั่งมาแล้ว เป็นคำสั่งคณะกรรมการดังกล่าว ซึ่งผมก็จะเซ็นเป็นคำสั่งแรกเลยเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจริงๆ ฉะนั้นก็ต้องว่าเป็นรายๆไป

โดยการพิจารณาจะรับฟังผู้ได้รับผลกระทบก่อนว่าถูกต้องจริงไหม ซึ่งถ้าจริงก็จะช่วยเหลือเต็มที่ 

แต่ด้านการเยียวยาก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคำสั่งจะย้ายกลับที่เดิมหมด ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย โดยจะยึดหลักว่าจะเอาบุคลที่เหมาะสมที่สุดไปทำหน้าที่ที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” อรรถพลกล่าว

รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา (นั่ง) อธิบดีกรมอุทยานฯ (ภาพ : ข่าวสด)

ทิศจัดการ “ส่วยอุทยาน”

“คนที่ทำผิดก่อนหน้านี้ ขอให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม และการตรวจสอบทั้งในระดับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ป. และป.ป.ช. ซึ่งตนเองจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว หากใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ

ส่วนแนวทางการโยกย้ายตำแหน่งผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งในระดับหัวหน้าหน่วย และปฎิบัติงานรวมเกือบ 300 นาย ที่ร้องเรียนว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น  ยืนยันว่า ทุกตำแหน่งจะให้ความเป็นธรรมเหมาะสมกับทุกตำแหน่ง แต่อาจจะไม่ได้โยกย้ายคืนทุกตำแหน่ง จะมีคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายกรณีไป

(ต่อกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีเงินสินบนที่อธิบดี “ร” มีข้อตกลงว่าต้องส่งให้กับระดับ รมต. และปลัด) ไม่เป็นข้อเท็จจริง

(ต่อกกรณีที่ ศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เสนอให้ย้ายหัวหน้าหน่วยงานที่มีรายชื่ออยู่บนหน้าซองเงินที่ถูกพบในห้องของอธิบดีรัชฎา มายังส่วนกลางเพื่อป้องกันการยุ่งเกี่ยวต่อหลักฐาน) ตอนนี้กำลังพูดคุยอยู่ในคณะกรรมการ คาด 4 ก.พ. มีความคืบหน้าจากฝั่งกระทรวงฯ” อรรถพลกล่าว 

(ภาพ : hamanan)

ทิศจัดการ “หลีเป๊ะ”

“เรื่องหลีเป๊ะเดินหน้าต่อ แล้วตอนนี้ผมมาคุมเองก็จะยิ่งเข้มได้เลย ที่ผ่านมาท่านรองอธิบดีฯ ก็ติดตามมาอยู่แล้ว และในวันที่ 30 ม.ค.นี้ รองอธิบดีฯก็จะลงพื้นที่อีกครั้งกับคณะทำงานที่มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นประธาน ดังนั้นเรื่องการบังคับคดี การพิสูจน์การออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ จะมีการดำเนินการแน่นอน 

ในส่วนของชาวเล ที่อยู่อาศัยมาก่อน กรมอุทยานฯ เตรียมใช้ มาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ในการรับรองเขตที่ดินทำกินของชาวเลที่มีคุณสมบัติ อยู่อาศัยมาก่อน

จะมีการฟื้นฟูพื้นที่การทำประมงชั่วคราวของชาวเล หรือบาฆัค ในเขตเกาะอาดัง เกาะราวี แต่จะต้องอยู่ภายใต้การจัดระเบียบให้ถูกต้อง เพื่อการเลี้ยงชีพและรักษาวัฒนธรรมของชาวเล

อยากให้พี่น้องชาวเลได้มั่นใจว่าเรายึดหลักของกฎหมาย ยึดหลักของประวัติศาสตร์พี่น้องชาวเลที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ ซึ่งในวันที่มีการประชุม ท่านพล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง เป็นประธานคณะทำงานเรื่องการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตท่านก็มาร่วมด้วย เพราะฉะนั้นตรงนี้เรามองในทุกมิติ ทั้งมิติเรื่องการเข้ามาอยู่อาศัย มิติการเข้ามาทำประโยชน์ และมิติการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ฉะนั้นทุกอย่างจะได้รับความเป็นธรรม” อรรถพลให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว The Reporters หลังการแถลงข่าว

วราวุธ ศิลปอาชา (ภาพ : ไทยนิวส์)

“รอผลสอบ 4 ก.พ.” วราวุธ

“วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ จะครบกำหนด 30 วัน ระยะเวลาการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งผลจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าน่าจะได้มูลเหตุเบื้องต้นว่ามีความผิดหรือไม่

ส่วนขั้นตอนจากนั้นคือ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะต้องดำเนินการตามระเบียบ ซึ่งหากมีมูลความผิดทางปลัดกระทรวง คงต้องปฏิบัติตามระเบียบที่มีคือ ต้องมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งเป็นอำนาจโดยตรงของปลัดกระทรวงในการออกคำสั่งดังกล่าว

สำหรับการสอบสวนก็จะดำเนินการต่อไป ซึ่งเมื่อสิ้นสุดแล้วหากผลออกมาตัดสินว่ามีความผิดจริงต้องขึ้นอยู่กับขั้นของโทษตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามสำหรับระยะเวลาการสอบสวน คงต้องใช้เวลาซึ่งแล้วแต่คณะกรรมการสอบสวนที่ต้องสอบพยาน แต่ตนเองต้องการให้จบเร็ว 

สำหรับขวัญและกำลังใจของข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯนั้น ภายในเร็ววันนี้จะมีการแต่งตั้งอธิบดีคนใหม่เข้าไปให้ทำหน้าที่คลี่คลายปัญหา และสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯได้ดีมากขึ้น” วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่อกรณี “ส่วยอุทยาน” วานนี้

อาสาสู้ฝุ่น แกนนำและชาวบ้าน บ้านขุนช่างเคี่ยน ม.4 ต.ช่างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทำแนวกันไฟ เส้นทางน่าไร่หลวง ไปจนถึงค่ายลูกเสือสุเทพ ระยะทางยาวประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อเตรียมความพร้อม ป้องกันพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า (ภาพ : WEVO สื่ออาสา)

3 ข้อเสนอ “แก้ด่วน มลพิษหมอกควันภาคเหนือ”

“อธิบดีอรรถพลได้ขึ้นมารักษาการกรมอุทยานฯ  อนาคตถึงปลัดกระทรวงแน่นอน คำสั่งนี้ทางหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาอำนาจจัดการกรมใหญ่ที่สุด อีกทางหนึ่ง ก็แก้ปัญหาการเมืองให้กับรัฐมนตรีท็อป วราวุธ และ ปลัดจตุพร ด้วยหรือไม่ ? รอดูกัน

รู้สึกดีที่ท่านมาดูกรมนี้ เพราะท่านเข้าใจปัญหามลพิษฝุ่นควันดีที่สุดคนหนึ่งในบรรดาข้าราชการทั้งหมด ตั้งแต่อยู่กรมป่าไม้ก็ได้จัดการเรื่องถ่ายโอนไม่สุด อยู่ คพ. มีผลงานค่ามาตรฐานฝุ่นใหม่ ดันจนได้ทั้งๆ เพดานหนากดอยู่  นี่ก็มาดูอุทยานฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาโดยตรงอีกกรม 

ขอถือโอกาสนำเรียน ขอช่วย อย่างด่วนๆ ดังนี้…” 

บัณรส บัวคลี่ ตัวแทนจากสภาลมหายใจเชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อเสนอ 3 ข้อ เรียกร้องให้รักษาการอธิบดีกรมอุทยาน พร้อมอีก 2 อธิบดีที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ดำเนินการสั่งการด่วน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากรณี “หมอกควันมลพิษอากาศ PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึง

1. ออกนโยบาย คำสั่งที่ชัดเจนเรื่องการชิงเผา บริหารเชื้อเพลิงภาครัฐในป่าอนุรักษ์ 

2. เปิดเผยข้อมูลแนวกันไฟต่อสาธารณะ เนื่องจากตอนนี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทุจริตด้านงบประมาณที่นำมาใช้ทำแนวกันไฟ นอกจากนั้นในอนาคต ควรให้ชุนชนเข้ามีมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวกันไฟด้วย

3. กำหนดเขตจับตาพิเศษเบื้องต้น 7 ป่า เพื่อลดการเผาไหม้ในป่าซ้ำซาก