GreenJust : เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล

1.
สภาพแวดล้อมอันสวยสดงดงาม มากด้วยสีสันของสรรพชีวิตชีวิตทั้งพืชและสัตว์ ทั้งบนพื้นดิน บนท้องฟ้าและใต้ท้องน้ำ ตรึงสายตาและแทรกซึมเข้าสู่ห้วงอารมย์ของผู้ชม ตลอดระยะเวลาประมาณ 3 โมงจึงเป็นห้วงเวลาที่ผู้ชมหนังเรื่อง “อวตาร” ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันวิจิตรตระการตา ดังภาพฝันในในอุดมคติที่ปรากฎให้เห็นกับตาจริงๆ บนจอยักษ์
เรื่องราว (สมมติ) ที่เกิดขึ้นบนดาวสมมติที่ชื่อว่า “แพนโดร่า” ถูกรังสรรค์ด้วยเครื่องมือเทคโนโลยี่ และถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจ สิ่งที่โดดเด่นของหนังเรื่องนี้นอกจากฉากการต่อสู้ที่เข้มข้น และเข้าถึงอารมย์ของคนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิด คือฉากของโลกในอุดมคติของนุษย์เรา ไม่ว่าจะเป็นความอุดมสมบูรณ์และระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม และรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่มีสติปัญญา ชาญฉลาด แต่ยังคงใช้ชีวิตอยู่แบบดั้งเดิม มีจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ใช้สัตว์เป็นพาหนะ กินอยู่แบบพอเพียง รักสงบและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ

2.
นี่คงเป็นครั้งแรกที่คนเข้าไปดูหนังเพราะอยากดูฉากของหนังมากกว่าเนื้อเรื่อง บรรดาคนที่ได้เข้าไปดูในโรง จะพูดถึงแต่สภาพแวดล้อมของดวงดาวแพนโดร่าที่สวยงาม เวลาเปิดฟังคลิปรีวิวหรือสปอยล์หนัง พวกเขาก็พูดถึงแต่ฉากของสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสำทับว่าคุ้มค่าตั๋วจริงๆ สมแล้วที่ผู้สร้างใช้ระยะเวลาในการสร้างนานร่วม 10 ปี โดยแทบไม่มีใครพูดถึงเนื้อหาของหนังเลยทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องซึ่งเกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมืองที่ต่อสู้กับเหล่าผู้บุกรุก เพื่อปกป้องบ้านเกิดอย่างสุดกำลัง ดำเนินไปอย่างเข้มข้น

3.
ประเด็นหนึ่งที่ทำให้คนดูประทับใจคือ ลักษณะการใช้ชีววิตของชาวนาวี ที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในสังคมบรรพกาล แต่มีสติปัญญา รายล้อมไปด้วยสีสันสวยงามของธรรมชาติ วิถีชีวิตกลมกลืนกับธรรมชาติ และยังมีจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ถึงขั้นที่หากธรรมชาติได้รับความเสียหายหรือบาดเจ็บ คนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
เหตผลที่ดวงดาวแพนโดร่ายังคงมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์อย่างมาก เพราะชาวนาวีมีกฎในการใช้ชีวิตหรือเรียกว่าวิถีแห่งนาวี คือ 1) จะไม่วางหินบนหินด้วยกัน หมายถึง ชาวนาวีจะไม่ก่อสร้างบ้านเรือนหรือสิ่งก่อสร้างใดๆ ที่จะกระทบต่อระบบนิเวศน์ 2) จะไม่ใช้ล้อหมุน หมายถึง จะไม่พัฒนาเทคโนโลยี่ เครื่องจักรกลใดๆ 3) จะไม่ใช้โลหะจากผืนโลก หมายถึง จะไม่นำแร่ โลหะ หรือสิ่งมีค่าใดๆ จากใต้ดินและบนผืนดินมาใช้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การใช้ทรัพยากรเพื่อตอบสนองต่อความต้องการอันไม่สิ้นสุดของมนุษย์ ซึ่งจะก่อให้เกิดการทำลายล้างสิ่งมีชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศน์
วิถีชีวิตและความคิด ความเชื่อของงชาวนาวีในแพนโดร่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแนวคิดทางสิ่งแวดล้อมของโลกมนุษย์เราคือ แนวคิดมีระบบนิเวศน์เป็นศูนย์กลาง หรือ Eco centric หมายถึงแนวคิดที่เชื่อว่าสรรพชีวิตและสรรพสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติซึ่งรวมถึงมนุษย์ด้วย ล้วนมีคุณค่าและมีสิทธิตามธรรมชาติอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งต่างล้วนมีสิทธิที่จะดำรงอยู่และสืบต่อเผ่าพันัธุ์ของตน โดยไม่คำนึงถึงว่าสิ่งเหล่านั้นมีประโยชน์หรือมีความสำคัญกับมนุษย์หรือไม่ มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบธรรมชาติ และต้องพึ่งพาอาศัยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำหรับดำรงชีวิตอยู่ ดังนั้น มนุษย์จะต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ
ภายใต้แนวคิดมีระบบนิเวศน์เป็นศูนย์กลาง มนุษย์จะสร้างกติกาสำหรับอยู่ร่วมกันอย่างชาญฉลาด เข้าใจ รักและหวงแหนธรรมชาติ กิจกรรมใดที่จะนำไปสู่การทำลายความสมดุลของระบบนิเวศน์ จะต้องห้ามหรือทำด้วยความระมัดระวัง ซึ่งเราจะเห็นว่าชาวนาวีก็ออกล่าสัตว์เป็นอาหาร มีการใช้สัตว์เป็นพาหนะ รวมทั้งมีการใช้ทรัพยากรอื่นๆ สำหรับดำรงชีพ แต่ก็จะทำเพียงเพื่อดำรงชีวิตอยู่เท่านั้น ไม่มีการทำเพื่อสะสมความมั่งคั่ง หรือหวงกันเอาไว้ให้ตัวเองเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว
ซึ่งแตกต่างจากความคิดและความเชื่อของมนุษย์โลก ที่มุ่งเอาทรัพยากรไปใช้เพื่อสนองต่อผลประโยชน์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะใช้เป็นอาหารเพื่อดำรงอยู่หรือสร้างความมั่งคั่ง หรือเพียงเพื่อตอบสนองต่อความพึงพอใจอย่างไม่มีเหตุผลในเชิงตรรกะ แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์มากๆ ก็ถูกมนุษย์ฆ่าหรือทำลายไม่เว้น เพื่อนำไปสนองต่อความต้องการของมนุษย์ที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด จนกระทั่งทรัพยากรในโลกนี้ไม่พอ ดังที่ปรากฎในหนังเรื่องนี้ เมื่อมนุษย์จะต้องออกเดินทางไปแสวงหาหายังนอกโลกและไปเบียดเบียนชาวนาวีในดาวแพนโดร่า อันเป็นไปตามแนวความคิดทางสิ่งแวดล้อมที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง หรือ Anthropocentric คือ เป็นแนวคิดที่เชื่อว่ามนุษย์คือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความสำคัญมากที่สุดในโลก มนุษย์อยู่เหนือธรรมชาติ และเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่มีคุณค่าโดยกำเนิด โดยสิ่งอื่นๆ ทั้งมีและไม่มีชีวิต เช่น สัตว์ พืช แร่ธาตุ ก้อนหิน ล้วนเป็นเพียงทรัพยากรที่มนุษย์มีความชอบธรรมด้วยประการทั้งปวงนำมาใช้เพื่อสนองต่อผลประโยชน์ของมนุษย์
แล้วโลกในชีวิตจริงของเรา จะมีโอกาสกลับมามีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ไกล้เคียงกับดาวแพนโดร่าได้ไหม ถ้าพูดถึงการทำให้พลิกกลับมาอุดมสมบูรณ์อย่างในสมัยโบราณคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงในระดับที่เพียงทำให้ระบบนิเวศน์ที่พังไปแล้วหรือไกล้จะพัง ฟื้นกลับคืนมาและสามารถเอื้อให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ดำรงชีวิตอยู่ได้นั้น มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว ถ้าพูดแบบห้วนๆ คือ ทำให้สิ่งแวดล้อมฟื้นตัวกลับมาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ระบบนิเวศน์ธรรมชาติสามารถทำงานของมันเองได้ตาม แต่ถ้าพูดให้เป็นแนวทาง ก็จะต้องทำ 2 อย่างคือ
1) การสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของวิถีชีวิตที่มีระบบนิเวศน์เป็นศูนย์กลาง มนุษย์เราไม่ใช่เจ้าของโลกใบนี้แต่เพียงลำพัง แต่สรรพชีวิตล้วนมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกัน มนุษย์ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เบียดเบียนทรัพยากรของโลกให้น้อยลง
2) การสร้างกฎที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแนวความคิดที่มีระบบนิเวศน์เป็นศูนย์กลาง โดยยอมรับว่าคนในสังคมจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรเพื่อดำรงชีวิต แต่ต้องควบคุมพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เป็นมิตรต่อโลกใบนี้ และเข้มงวดกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างล้างผลาญ ส่งเสริมให้คนในสังคมมีหน้าที่ร่วมกันรักษาทรัพยากรและมีสิทธิอย่างเท่าเทียมกันในการใช้ประโยชน์ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่พ้นจากวิสัยที่จะทำได้จริง เพราะมีประเทศที่เขาเอาจริงเอาจังแล้วปรากฏว่าเป็นไปได้จริง เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศสวีเดน ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นต้น

4.
แม้ว่ามนุษย์จะมีอุดมคติที่ต้องการมีธรรมชาติที่สวยงาม ความต้องการเหล่านี้แทบจะอยู่ในเป้าหมายของทุกประเทศชาติหรือเผ่าพันธุ์มนุษย์ พ่อแม่ทุกคนพร่ำสอนลูก ครูบาอาจารย์คอยย้ำเตือน รวมทั้งตำราเรียนเขียนเอาไว้อย่างละเอียด สื่อประโคมไม่เคยขาด หากแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตจริงของมนุษย์เรา กลับสวนทางกับภาพในอุดมคติ ไม่ว่าจะโดยความตั้งใจของเราหรือความจำเป็นเพราะตกอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมของสังคมที่บีบให้เราไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น เช่น เราอยากเห็นป่าไม้เพิ่มขึ้น แต่เรากลับวางแผนสร้างบ้านหลังใหญ่กว่าคนข้างบ้าน เราอยากมีอากาศสดชื่นสำหรับสูดหายใจให้เต็มปอด แต่จะออกนอกบ้านเมื่อไหรเราก็มักจะเลือกขับรถ
หรือมนุษย์เราจะยอมรับแล้วว่าการทำให้ธรรมชาติของเรากลับไปอุดมสมบูรณ์ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แล้ว และรู้สึกว่าป่วยการที่จะไปลงมือทำอะไรหรือเรียกร้องอะไรอีก จึงเลือกที่จะหันไปดื่มด่ำกับภาพเสมือนจริงของโลกสมมติบนจอแทน