GreenAdvertorial : โตโยต้า บนเส้นทางสู่เป้า “ลดคาร์บอน”
สู่การเปลี่ยนแปลง จากหนึ่งการลงมือทำ
“ทุกวันนี้ คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและทุกๆ การกระทำของตัวเองกันมากขึ้น เพราะปัญหาโลกร้อนที่ทำให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมา ทั้งมลพิษและภัยพิบัติจนระบบนิเวศถูกทำลาย มีต้นตอมาจากน้ำมือของมนุษย์
ดังนั้น ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ไปอีกนาน หนทางที่เราทำได้ทันทีเพื่อเยียวยาโลกเอาไว้ ก็คือทำแอ็กชันทั้ง 4 อย่างต่อไป” พิชญา มีมากบาง เปิดเผยความรู้สึก
พิชญา หนึ่งในคนไทยกว่า 20,000 คนที่เข้าร่วมกิจกรรมภายใต้แคมเปญ ‘ ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า’ แคมเปญที่ตั้งใจให้ความสำคัญกับ “การลงมือทำ” เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกับโลก ด้วยการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันที่มีส่วนช่วย “ลดคาร์บอน” หรือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ เพื่อช่วยชะลอวิกฤตโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงไปทั้งโลก
4 แอ็กชัน หรือ 4 การลงมือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมระดับปัจเจคที่พิชญากล่าวถึง คือ
- การประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟ เพื่อลดใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่ายการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาลงในแต่ละเดือน
- พกถุงผ้า หรือถุงกระดาษไปชอปปิงที่ Tops Market เพื่อไม่ต้องรับถุงพลาสติกเพิ่ม
- เติมน้ำมันพลังงานทางเลือก เช่น น้ำมัน E20, E85, B7, B10, B20
- สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยไม่รับช้อน ส้อม และหลอดพลาสติกจากร้านค้า
“ลดเปลี่ยนโลก” กับโตโยต้า 2565
ภายใต้แนวคิดและความมุ่งหมายคือรณรงค์ให้คนไทยหันมาใส่ใจกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้มีส่วนช่วยลดคาร์บอน แคมเปญ “ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” เริ่มต้นดำเนินการครั้งแรกในปี 2562 เป็น “ซีซันแรก” และปีนี้ 2565 จัดขึ้นอีกครั้งเป็น “ซีซันสอง”
“ในซีซันแรกของแคมเปญลดเปลี่ยนโลกได้ชวนคนหันมาลดการใช้พลาสติกทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหลอด แก้วน้ำ หรือภาชนะต่างๆ ชวนให้คนหันมาพกแก้วส่วนตัวไปซื้อเครื่องดื่ม ไม่รับหลอด และใช้กล่องข้าวแทน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 30,000 คน และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้งไปได้มากถึง 33,707 กิโลกรัม
ส่วนปีนี้ แคมเปญ ‘ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า’ ซีซันสอง กลับมาอีกครั้งกับกิจกรรมที่หลากหลายกว่า โดยมีเป้าหมายเพื่อสานต่อความตั้งใจของโตโยต้า ที่ต้องการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ จึงชวนคนไทยมาร่วมกันลดเพื่อเปลี่ยนให้โลกของเราดีขึ้นด้วย
ตลอดระยะเวลาจัดแคมเปญฯ ตั้งแต่ 22 เมษายน จนถึง 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 21,656 คน เกิดแอ็กชันลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปแล้วกว่า 51,486 ครั้ง
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมพิเศษที่ชวนทุกคนมาแชร์ไอเดียและไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของเราอีกด้วย นำทีมโดยพรีเซนเตอร์ และเหล่า Greensters หรืออินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ร่วมกันออกมาชวนคนในสังคมให้ทำแอ็กชันลดคาร์บอนไดออกไซด์และส่งต่อแนวคิด สังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน ไปยังหัวใจของคนรุ่นใหม่และคนไทยทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่เคมเปญเปิดเผย
โตโยต้า กับเป้าหมายและเส้นทาง “ลดคาร์บอน”
ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งสู่การเป็น “ผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม” โตโยต้าได้ประกาศพันธกิจใหม่ 5 ประการในวาระดำเนินการในประเทศไทยครบรอบ 60 ปีในเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา และหนึ่งในนั้น คือพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม
“เสริมสร้างสมดุลแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการดำเนินงานในทุกกระบวนการตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์” พันธกิจใหม่ข้อที่ 3 ระบุ
โตโยต้าเปิดเผยว่า หนึ่งในแผนงานที่โตโยต้าให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คือการบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของกลุ่มโตโยต้าทั่วโลก และสอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกลยุทธที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ
โดยเริ่มจากการแนะนำรถยนต์ bZ4X ซึ่งถือเป็นรถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้ารุ่นแรกของโตโยต้าเข้าสู่ตลาด และมีแผนที่จะแนะนำยานยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไป เพื่อรองรับความต้องการและการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทย
รวมถึงการเตรียมความพร้อมในด้านของกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐานคุณภาพที่สูงสุด ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน ในการศึกษาโครงการต่างๆร่วมกันทั้งในด้านการสร้างบุคลากรที่มีทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมรองรับการเติบโตและความนิยมที่เพิ่มขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบยานยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นในอนาคต
พันธกิจใหม่อีกข้อที่มีความเกี่ยวข้องกับทิศทางด้านสิ่งแวดล้อมโตโยต้า คือพันธกิจข้อที่ 4 ที่ระบุว่า “ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการขับเคลื่อนความสุขสู่ผู้คน รวมถึงนำพาสังคมให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”
ซึ่งโตโยต้าได้ประกาศความพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนสังคมไทย สู่ “ยุคแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งเสริมสร้างสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมที่ดี ภายใต้กรอบของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ “SDGs – Sustainable Development Goal” ด้านสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว โตโยต้าได้มีความพยายามเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง (Multi Pathway) ผ่านการดำเนินงานในรูปแบบต่างๆ พร้อมกับความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอน ผ่านการจัดการกระบวนการผลิตตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Life Cycle Assessment) รวมไปถึง
- การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงมลภาวะ เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ เช่น การใช้พลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่ หรือ ไฟฟ้า
- การนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบส่งกำลังรูปแบบต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการใช้งานในทุกรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า
- การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาค ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ
- การยกระดับการดำเนินงานในสายการผลิตเพื่อบรรลุเป้าหมาย โรงงานที่ปล่อย CO2 เป็นศูนย์ ทั้งการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในสายการผลิต การลดการใช้พลังงานในสายการผลิต และ การเพิ่มประสิทธิภาพภายใต้ระบบการผลิตแบบโตโยต้า
- การร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้แทนจำหน่ายในการจัดการระบบขนส่งอย่างมีประสิทธภาพเพื่อให้ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ การร่วมลดการใช้พลังงานในสำนักงาน ตลอดจนมีข้อกำหนดมาตรฐานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้กับคู่ค้าตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ
- การขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการเตรียมความพร้อมในการกำจัดผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุการใช้งานอย่างถูกวิธี (3R : Rebuilt, Reuse, Recycle)
- การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นกลางทางคาร์บอนแห่งแรกนอกโรงงาน “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านกิจกรรมการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม
- การมีแผนริเริ่มโครงการ “ชุมชนสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” เพื่อยกระดับจากการสร้างศูนย์การเรียนรู้ ไปสู่การสร้างชุมชนต้นแบบที่จะสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้ทุกคนในชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนต่อไปอีกด้วย โดยตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
- การขยายผลของการดำเนินการไปสู่อีกระดับ โดยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายโครงการ อาทิ เช่น โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ ร่วมกับเมืองพัทยา โดยโตโยต้าได้มีการนำรถยนต์พลังงานสะอาดทุกรูปแบบ ทดลองให้บริการเพื่อตอบสนองการเดินทางที่มีความหลากหลายในเมืองพัทยา และร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ การใช้พลังงานสะอาด หรือ ระบบเชื่อมต่อการเดินทางที่ทันสมัย เข้ามาใช้ในโครงการ ภายใต้คอนเซ็ปท์ Modernized and Decarbonized Transportation
วิกฤตโลกร้อน กับบทบาทภาคเอกชนวันนี้ “ทางรอดไม่ใช่ทางเลือก”
“ความหนาแน่นของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศนั้นเพิ่มขึ้นสูงสุดสร้างสถิติใหม่ โดยความหนาแน่นขอก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แตะ 414.7 ppm ซึ่งสูงที่สุดในอย่างน้อยในรอบหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา
ด้านความร้อนของพื้นผิวโลก ก็กำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2021 เป็นปีที่ร้อนที่สุดอันดับ 6 นับตั้งแต่เริ่มบันทึกราว 100 กว่าปี ขณะ 7 ปีที่ผ่านมา (2015 – 2021) เป็น 7 ปีที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกมา
ขณะที่สถานการณ์ทะเลโลกก็เผชิญวิกฤตที่น่ากังวลเช่นกัน ทั้งความร้อนของมหาสมุทรโลก และระดับน้ำทะเลได้เพิ่มขึ้นสูงทุบสถิติ” รายงาน State of the Climate 2021 ซึ่งเป็นความร่วมมือของหน่วยงานและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกด้านข้อมูลสถานการณ์ของสภาพภูมิอากาศโลก เปิดเผยล่าสุด (อ้างอิง) ตอกย้ำอีกครั้งถึงความเร่งด่วนของวิกฤตโลกร้อนที่ต้องการการลงมือทำในทุกระดับ และทุกภาคส่วน
แคมเปญ ‘ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า’ เป็นอีกหนึ่งความพยายามลงมือทำในระดับบริษัทเอกชนฯ ที่หวังว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับบุคคลในสังคมไทยให้เพิ่มขึ้น ทั้งการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ให้มีส่วนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้มากที่สุดอย่างยั่งยืนในระยะยาว ไปพร้อม ๆ กับการลงมือทำในระดับบริษัทฯ ของโตโยต้าอย่างเต็มที่
“แม้แคมเปญในปีนี้จะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่โตโยต้าเชื่อมั่นว่าชาเลนจ์และทุกกิจกรรมจะสร้างแรงบันดาลใจเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติให้ทุกคนหันมาดูแลโลกด้วยสองมือของเราได้ไม่สิ้นสุด เหมือนกับที่โตโยต้ายังคงมุ่งมั่นหาหนทางลดคาร์บอนไดออกไซด์ต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ภายในปี 2050 และเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมเยียวยาและเปลี่ยนโลกใบนี้ไปด้วยกัน
เพราะความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ล้วนเกิดจากการเริ่มต้นของคนตัวเล็กๆ ที่ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้วลงมือเปลี่ยนโลกใบใหญ่อย่างไม่รีรอ” หนึ่งในเจ้าหน้าที่โตโยต้ากล่าว