ประวิตรส่งบิ๊กตำรวจมาเจรจาแกนนำ “ประมงพื้นบ้าน” นัดพรุ่งนี้บ่าย

ท่ามกลางความไม่ชัดเจนว่าจะมีการนำประเด็น “ม.57 พรบ.ประมง” เข้าที่ประชุมบอร์ดประมงชาติ 30 ก.ย. นี้ ตามที่เครือข่ายประมงพื้นบ้าน “ทวงสัญญาน้ำพริกปลาทู” หรือไม่ 

ล่าสุดวันนี้ (28 ก.ย. 2565) รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” แจ้งเครือข่ายฯ ผู้ชุมนุมว่าจะส่ง “ไกรบุญ ทรวดทรง” ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาเจรจาตัวแทนเครือข่ายพรุ่งนี้ช่วงบ่าย 

(ภาพ : เครือข่ายรักษ์ทะเลไทย)

ความเคลื่อนไหวในรอบวัน 

ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม “ทวงสัญญาน้ำพริกปลาทู” วันนี้ เริ่มในช่วงเช้า ต่อมาราวเวลา 10.00 น. สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย  และเครือข่ายรักษ์ทะเลไทย เคลื่อนเข้าไปบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเข้าพบ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ  แต่ถูกสกัด จากเจ้าหน้าที่

ต่อมาสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเข้ามาเจรจากับผู้ชุมนุม ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งผู้ชุมนุมได้ยื่นข้อเรียกร้องอีกครั้งว่า ขอเข้าพบ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องการให้มาตรา 57 อยู่ในวาระเพื่อพิจารณาของการประชุมคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติในวันที่ 30 หลังรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับปากจะให้คำตอบก่อน 15.00 น.  

“อย่างน้อยที่สุดถ้าหากว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่มีเวลาจริง ๆ เราเข้าใจหมด เรามีเหตุมีผลพอแต่อย่างน้อยวันที่ 30 ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ อย่างน้อยให้ฝ่ายเลขา ฯ อย่างน้อยให้ฝ่ายการเมืองมาคุยกับเรา บันทึก MOU ร่วมกันว่าเราจะผลักดันเรื่องนี้ ให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน” ปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยกล่าวกับรองปลัดสำนักนายกฯ 

15.00 น. สมาคมรักษ์ทะเลไทย เผยถึงความคืบหน้าจากโดยระบุว่า มีการสื่อสารจากสำนักนายกว่า ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาร่วมประชุมกับทางสมาพันธ์ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย. 2565)

กลุ่มผู้ชุมนุมตัดสินใจเคลื่อนขบวนมาปักหลักบริเวณหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติในช่วงค่ำ เพื่อจัดเวทีออนไลน์ แถลงย้ำข้อเรียกร้อง

(ภาพ : เครือข่ายรักษ์ทะเลไทย)

ข้อความถึง “ประวิตร” จากสมาคมรักษ์ทะเลไทย

“ถ้าผมเป็นท่านประวิตรและเห็นแก่เกษตรกรที่เป็นชาวประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ชายฝั่งใน22จังหวัดของประเทศ (ซึ่งคิดเป็น85%ของผู้ที่มีอาชีพประมงทั้งประเทศ) ผมจะสั่งการดังนี้

1.ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯรีบออกประกาศกระทรวงตามมาตรา57ของพรก.ประมงภายใน7วันเพราะจะเป็นการปกป้องคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนไม่ให้ถูกทำลายอีกต่อไป(ถ้าไม่ทำสั่งปลดออกจากตำแหน่ง)

2.ให้ประกาศเขตทะเลชายฝั่งเป็น12ไมล์ทะเลทุกจังหวัด

3.ให้ยุติการทำประมงที่ใช้แสงไฟประกอบการทำประมงทุกชนิด (ด้วยว่าการทำประมงที่ประกอบแสงไฟเป็นการทำลายพันธ์สัตว์น้ำวัยอ่อนที่รุนแรง ลูกปลาทูตัวเล็กๆที่นำมาต้มตากขายกันเกลื่อนเมืองนั้นคือผลผลิตของการทำประมงด้วยแสงไฟ)

4.ให้หยุดการทำประมงอวนลากคู่ให้ทำการประมงเพียงอวนลากเดี่ยวโดยให้มีการขยายตาอวนก้นถุงเป็น10ซม.และให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง(คือนอกเขต12ไมล์ทะเลเท่านั้น)

นี่คือโอกาสของท่านแล้วนะครับ ที่จะใช้อำนาจหน้าที่ทำเพื่อคนส่วนใหญ่/เพื่อคนกินปลา/เพื่อสร้างรูปธรรมของความมั่นคงทางอาหารให้กับลูกหลานและสังคมไทย

พรุ่งนี้จะรอฟังคำสั่งการของท่านในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ” สมาคมรักษ์ทะเลไทยโพสต์เฟสบุ๊ก

(ภาพ : เครือข่ายรักษ์ทะเลไทย)

ย้ำข้อเรียกร้อง “นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมบอร์ดประมงชาติ” มิเช่นนั้น..

 เครือข่ายยืนยันว่าหากทางรัฐ ไม่มีการนำมาตรา 57 เข้าในวาระการประชุมเพื่อพิจารณาทางเครือข่ายจะยังคงปักหลักต่อไป รวมถึงอาจมีการรวมตัวภาคพิเศษ ของสมาชิกทั้ง 66 องค์กร 19 จังหวัด

“ในนามนายก สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้าน แห่งประเทศไทย อยากจะสื่อสารถึงสมาชิก 66 องค์กร 19 จังหวัด อยากชวนสมัชชาประมงพื้นบ้าน เคลื่อนที่ภาคพิเศษที่กรุงเทพ ให้สมาชิกทั่วประเทศเตรียมพร้อม

วอนผู้มีอำนาจของรัฐบาลชุดนี้ของร้องช่วยทำตามข้อเรียกร้องของพวกเรา ไม่ต้องอนุมัติเงินหลายร้อยล้าน แค่ใช้ปากกาประชุมคระกรรมการ ผลจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ เราไม่ได้บังคับ เพราะเรารู้ว่าพวกท่านมีจิตสำนึกพอสมควร ที่จะรักษาท้องทะเล ที่จะรักษาทรัพยากรของลูกหลานเอาไว้” ปิยะ เทศแย้มตัวแทนเครือข่าย กล่าว