ลักลอบทิ้งกากล็อตใหญ่จากระยอง EARTH จี้กรมโรงงานฯเปิดข้อมูล

กรมโรงงานอุตสาหกรรมเผยตรวจพบการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมล็อตใหญ่ 80,000 ตัน ในพื้นที่ระยอง ระบุมาจากโรงงานในนิคมมาบตาพุด เป็นโรงงานปุ๋ยแห่งชาติที่ปิดกิจการแล้วราว 20 ปี พบกากรอทิ้งรวม 500,000 ตัน “สั่งหยุดทันที-เตรียมดำเนินการทางกฏหมาย”

ด้านการนิคมฯ ออกมาโต้ “มีใบอนุญาตขนย้าย-สั่งตรวจสอบแล้ว-ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย” ขณะบริษัทบอกรอรวบรวมเอกสารก่อน 

“คือความหละหลวม ของหน่วยงานกำกับดูแล” บูรณะนิเวศชี้ จี้กรมโรงงานเปิดผลดำเนินคดี 50,000 กว่าโรงงานที่กรมระบุว่า ไม่รายงานการขนย้ายกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงาน

(ภาพ : กรมโรงงานอุตสาหกรรม)

พบลักลอบทิ้ง ที่มาบตาพุด

“เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง จากกรณีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนพื้นที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ว่าในแต่ละวันมีรถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกผงฝุ่นสีขาวเต็มคันสัญจรไป-มา ประมาณ 100 คัน บางคันใช้ผ้าใบสแลนกันแดดคลุม และบางคันไม่มีการคลุมป้องกัน ซึ่งเมื่อรถบรรทุกดังกล่าววิ่งด้วยความเร็วส่งผลให้ฝุ่นฟุ้งกระจายตามท้องถนน และปลิวเข้าบ้านเรือน ตลอดจนติดล้อรถออกมาสะสมบริเวณพื้นผิวจราจร ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนในพื้นที่และผู้สัญจรไป-มา เป็นอย่างมาก

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบกองกากของเสียอุตสาหกรรมจำนวนมากในพื้นที่โรงงาน มีรถบรรทุกจอดรอคิว เพื่อขนของเสียไปทิ้งนอกโรงงาน ซึ่งโรงงานดังกล่าวประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมี ยิปซัม แอมโมเนีย แอมโมเนียไฮดรอกไซด์ กรดกำมะถัน 

ตรวจสอบพื้นที่ภายในบริเวณโรงงานพบวัสดุลักษณะผงสีขาวจับตัวกันแข็งเป็นก้อน กองสูง 20 – 30 เมตร บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ คาดมีจำนวนกว่า 500,000 ตัน โดยมีรถแบคโฮ นับ 10 คัน กำลังขุดตักของเสียใส่รถบรรทุกเพื่อนำออกไปทิ้งนอกโรงงาน 

จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่บริษัท พบว่าเป็นของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งชาติ ที่ได้เลิกกิจการไปแล้วกว่า 20 ปี โดยยอมรับว่าได้ขนออกไปแล้วกว่า 80,000 ตัน เพื่อไปฝังกลบไว้ในที่ดินว่างห่างออกไปจากโรงงาน 10 กิโลเมตร 

กรอ. ได้ตามไปตรวจสอบในพื้นที่ฝังกลบ พบว่าเป็นบ่อดินเดิมที่ทิ้งร้าง และมีรถแบคโฮ 5 คัน กำลังไถปรับพื้นที่ จึงสั่งให้ผู้ควบคุมหยุดการดำเนินการทั้งหมด

กรอ. ได้สั่งการให้โรงงานหยุดขนออกนอกโรงงานโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้การขนย้ายมีผลกระทบกับชุมชนโดยรอบ และเก็บตัวอย่างผงฝุ่นสีขาวเพื่อตรวจสอบ เนื่องจากการขนย้ายดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตจาก กรอ. 

ทั้งนี้ กรอ.จะสั่งการให้เร่งนำไปบำบัดและกำจัดให้ถูกต้อง ทั้งของที่อยู่ในโรงงานและที่นำไปลักลอบทิ้ง และพร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับโรงงานให้ถึงที่สุด

การลักลอบทิ้งกากเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และสร้างผลกระทบต่อชุมชนอย่างมาก กรอ. จึงได้พยายามแก้ปัญหาดังกล่าวแบบครบวงจร 

โดยที่ผ่านมาได้มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกากอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ทั้งเสนอแก้ไขกฎหมาย เพิ่มโทษจำคุกกับพวกลักลอบทิ้งกาก ตลอดจนดำเนินคดีกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่รายงานการขนกากออกนอกโรงงานกว่า 50,000 ราย พร้อมทั้งนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มากำกับการขนย้ายกากแบบครบวงจร (E-Fully Manifest) และในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2566 นี้ กรอ.จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานที่มีหน้าที่รับกำจัดกาก แบบปูพรมทั่วประเทศพร้อมกัน เพื่อกำกับการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพที่สุด” วันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเปิดเผยวานนี้ (8 ก.ย.2565)

(ภาพ : กรมโรงงานอุตสาหกรรม)  

กนอ. โต้ “มีใบอนุญาตขนย้าย”

“กนอ. ได้รับรายงานจาก สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้นำส่งหนังสือแจ้งขนย้ายสารปรับปรุงคุณภาพดิน (ยิปซัม) ออกจากพื้นที่ของบริษัท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้ทาง สนพ. พิจารณาตามหนังสือเลขที่ NFC 076/2565 ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2565

และทาง สนพ.ได้มีการประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และได้ออกหนังสือเลขที่ อก. 5106.5/0698 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ให้บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามหนังสือให้ครบถ้วน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้บริษัทฯ นำสารปรับปรุงคุณภาพดิน (ยิปซัม) ออกนอกพื้นที่

จากนั้นในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เทศบาลเมืองมาบตาพุด ได้ออกหนังสืออนุญาตให้ขนย้ายของเสียจากการก่อสร้าง การรื้อถอนทำลายสิ่งก่อสร้าง และวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ที่ไม่เป็นของเสียอันตรายออกนอกพื้นที่โรงงาน ตามหนังสือ เลขที่ รย. 52204/4345 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2565” วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ”

“ประชาชาติธุรกิจ” ยังรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวโรงงานปุ๋ยแห่งชาติ ระบุว่า “บริษัทได้ยื่นขออนุญาตการขนย้ายทุกครั้งกับทางเทศบาล พร้อมทั้งมีหลักฐานที่เป็นเอกสารยืนยัน ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและเอกสารทุกอย่างเพื่อชี้แจงกับทาง กรอ.” 

และรายงานว่า สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณกองยิปซัมภายในบริษัท และในพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน เก็บตัวอย่างยิปซัมไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ และให้บริษัทหยุดการขนยิปซัม พร้อมยืนยันว่าจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหากพบว่ามีความผิดจริง ก็พร้อมดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนต่อไป 

วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) (ภาพ : Prachachat)

“คือความหละหลวม ของหน่วยงานกำกับดูแล” บูรณะนิเวศ

“ถือเป็นความหละหลวมของหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล”  เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) กล่าว

“พออ่านจากข่าวแล้วก็มีความรู้สึกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดมาจากความหละหลวมของหน่วยงานกำกับดูแล

การตรวจพบกากอุตสาหกรรมกว่า 80,000 ตันที่มีการลักลอบทิ้ง ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะมาก เป็นไปไม่ได้ที่กรมโรงงานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่รู้ว่ามีการลักลอบทิ้งเกิดขึ้น

รายงานข่าวบอกว่า เจ้าของพื้นที่เป็นโรงงานประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมี ยิปซัม แอมโมเนีย แอมโมเนียไฮดรอกไซด์ กรดกำมะถัน ซึ่งเลิกกิจการไปแล้วกว่า 20 ปี ซึ่งถ้านับตามเวลาตามที่กล่าวมาโรงงานดังกล่าวจะเลิกกิจการราว ๆ ปี 2545 ซึ่ง ณ ขณะนั้นก็มีกฎหมายการจัดการกากอุตสาหกรรมออกมาแล้ว 

คำถามคือ โรงงานผลิตปุ๋ยแห่งชาติอยู่ภายใต้การดูแลของการนิคมอุตสาหกรรมหรืออยู่ภายใต้การดูแลของกรมโรงงานฯ 

กรมโรงงานฯ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า การลักลอบทิ้งที่เกิดขึ้นเป็นความหละหลวมของกรมโรงงานฯ เอง ต่อให้โรงงานเลิกกิจการก็ต้องมีการตรวจสอบว่าโรงงานนั้น ๆ ได้ก่อความเสียหายหรือมีกากของเสีย สิ่งปนเปื้อนเหลือทิ้งไว้หรือไม่ และถ้ามีการสร้างความเสียหายที่ต่อให้โรงงานเลิกกิจการไปแล้วกรมโรงงานก็ยังคงต้องติดตามให้เจ้าของโรงงานดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ให้มีความปลอดภัย

กากของเสียจากโรงงานเป็นเรื่องใหญ่ แล้วถ้ามันมีมากขนาด 500,000 ตันเนี่ย มันต้องมีการดำเนินงานให้โรงงานมีการจัดการให้ถูกต้องก่อนที่จะเลิกกิจการและทิ้งโรงงานไป” เพ็ญโฉม ให้สัมภาษณ์ GreenNews

เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) (ภาพ : Thairath)

จี้กรมโรงงานฯ เปิดผลดำเนินคดี 50,000 กว่าโรงงาน

“กรมโรงงานฯ ช่วยแจกแจงรายละเอียดให้สาธาราณะชนรับทราบได้ไหมว่า ในการดำเนินคดีกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่รายงานการขนย้ายกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงาน ที่มีกว่า 50,000 ราย ได้มีการดำเนินคดีไปแล้วกี่ราย อย่างไรบ้าง ผลเป็นอย่างไร ถึงที่สิ้นสุดแล้วหรือไม่ แทนที่จะออกมาพูดกว้าง ๆ และมีความกำกวม 

อยากให้ กรมโรงงานฯ ช่วยแจงแจงรายละเอียดของการดำเนินคดีกับโรงงานที่ไม่ส่งรายงานการขนย้ายกากออกนอกโรงงาน ผลการดำเนินคดีเป็นอย่างไรบ้าง

ต่อการที่อธิบดีกรมโรงงานฯ ได้ออกมากล่าวถึงการแก้ไขกฎหมาย เพิ่มโทษจำคุกกับพวกลักลอบทิ้งกาก อยากทราบว่า การดำเนินการในส่วนนี้มีความคืบหน้าไปมากแค่ไหน จะแก้ไขเสร็จเมื่อไหร่และจะมีการบังคับใช้เมื่อไหร่

ในเมื่อกรมโรงงานฯ บอกเองว่านี่เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน เพราะฉะนั้นการแก้ไขกฎหมายตรงนี้ต้องจัดทำอย่างเร่งด่วน กรมโรงงานฯก็พูดถึงการแก้ไขกฎหมายมาหลายปีแล้ว มันจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่การแก้ไขกฎหมายถึงจะเสร็จ” เพ็ญโฉมกล่าว

(ภาพ : กรมโรงงานอุตสาหกรรม)