เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเผย กรณีพิพาทหมู่บ้านตุลาการรุกป่าเชิงดอยสุเทพ ในจ.เชียงใหม่ ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย หลังสำนักงานศาลยุติธรรมยังปล่อยเรื่องคาราคาซัง ไม่คืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ ซ้ำยังห้ามผู้ใดผ่านเข้าออกบริเวณหมู่บ้านพิพาท เผยเตรียมออกจดหมายเรียกร้องไปถึงประธานศาลฎีกาคนใหม่เร็วๆนี้
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เครือข่ายภาคประชาชนได้ถอนตัวจากคณะกรรมการพัฒนาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในบริเวณบ้านพักข้าราชการศาลตุลาการ (คณะกรรมการฟื้นฟูฯ) เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีเพียงแต่การประมูลจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาปรับภูมิทัศน์บริเวณอาคารชุด 9 หลัง บริเวณโซนด้านล่างเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ธีระศักดิ์ กล่าวว่า พื้นที่บ้านพักเดี่ยวข้าราชการตุลาการจำนวน 45 หลัง บริเวณพื้นที่โซนบนของหมู่บ้านป่าแหว่ง กลับยังไม่มีความคืบหน้าในการฟื้นฟู และยังปิดไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมโดยเด็ดขาด โดยสำนักงานศาลยุติธรรมให้เหตุผลว่า การกระทำใดๆในพื้นที่อาจสร้างความเสียหายให้กับตัวอาคาร และกระทบกับสัญญาค้ำประกันกับผู้รับเหมาได้
นอกจากนี้ ธีระศักดิ์ ยังเผยว่าโครงการปรับภูมิทัศน์บริเวณอาคารชุด 9 หลัง ด้วยงบประมาณฟื้นฟูป่าจำนวน 9 ล้านบาท ที่กำลังประมูล ยังมีลักษณะเป็นการปลูกต้นไม้ในบริเวณอาคารซึ่งยังมีผู้อยู่อาศัย จึงมีลักษณะเป็นการทำสวนหย่อมมากกว่าฟื้นฟูพื้นที่ให้เป็นป่า เป็นสาเหตุให้เครือข่ายภาคประชาชนตัดสินใจลาออกจากคณะกรรมการฟื้นฟูฯ เพราะมองว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ผิดวัตถุประสงค์
“เรากำลังเตรียมร่างจดหมายถึงท่านประธานศาลฎีกาคนใหม่ เพื่อเรียกร้องให้สำนักงานศาลยุติธรรมคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์โดยเร็วที่สุด เพราะในขณะนี้ศาลฯยังคงถือครองและใช้พื้นที่อยู่ ทำให้การฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับคืนสภาพป่าดังเดิมไม่สามารถทำได้” ธีระศักดิ์ กล่าว
“หากศาลฯยังคงปล่อยให้การฟื้นฟูคาราคาซังแบบนี้ จะยิ่งทำให้เป็นการบ่มเพาะความขัดแย้ง กลายเป็นแผลเป็นไม่หายสักที ดังนั้นทางเครือข่ายภาคประชาชนจึงขอให้มีการคืนพื้นที่กลับให้กรมธนารักษ์โดยเร็วที่สุด หากมิเช่นนั้นเครือข่ายฯจะเตรียมจัดการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้”

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดกรณีคดีความที่สำนักงานศาลยุติธรรมฟ้องร้องแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ 2 รายได้แก่ เรืองยศ สินโพธิ์ และ ธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ในข้อหาาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ธีระศักดิ์ กล่าวว่า ตนและเรืองยศถูกฟ้องร้องรวมกันเป็นจำนวน 3 คดี โดยคดีทั้งหมดยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน และยังไม่คืบหน้าเท่าใดนัก ซึ่งตนมองว่าคดีดังกล่าวเป็นความพยายามในการปิดปาก และทำให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายฯมีความยากลำบากขึ้น
ขณะเดียวกันในกรณีที่เกี่ยวข้อง สำนักข่าวออนไลน์ The Reporters รายงานเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมว่า ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา คณากร เพียรชนะ มีสุขภาพแข็งแรงดีขึ้นจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว หลังจากผู้พิพากษา คณากร พยายามฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความอิสระในการพิจารณคดีของผู้พิพากษาเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี นายอนิรุจ ใจเที่ยง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลา พร้อมด้วยตำรวจศาลไปรอรับผู้พิพากษา คณากร จากโรงพยาบาลให้กลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน
กรณีพิพาทหมู่บ้านตุลาการรุกป่าเชิงดอยสุเทพ เป็นอีกหนึ่งข้อตัดพ้อของผู้พิพากษาคุณากร ที่ระบุในแถลงการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาในหมู่ประชาชนต่อศาลยุติธรรม ส่งผลให้ผู้พิพากษาผู้น้อยทั่วประเทศที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับกรณีดังกล่าวต้องแบกรับตราบาปจากข้อมลทินที่เกิดขิ้นจากกรณีดังกล่าว
Timeline หมู่บ้านป่าแหว่ง ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
8 พฤศจิกายน 2561 มือมืดติดป้ายประจานตุลาการเข้าพักบ้านป่าแหว่งติดหรากลางเมืองเชียงใหม่
11 พฤศจิกายน 2561 กลุ่มขอคืนป่าดอยสุเทพ เผาโลงประท้วงหมู่บ้านป่าแหว่ง ภาครัฐยังยื้อ
18 พฤศจิกายน 2561 บุกบ้านแกนนำ “ต้านหมู่บ้านป่าแหว่ง” ยึดคอมฯ มือถือ สอบพิรุธป้ายโจมตีผู้พิพากษา
1 ธันวาคม 2561 เลขาฯศาลยุติธรรมแจ้งความผู้นำภาพ-ชื่อสกุล ผู้พิพากษาพักบ้านป่าแหว่งติดประกาศเผยแพร่
7 ธันวาคม 2561 มติ คกก.ห้ามเข้าอาศัยในบ้านพักเดี่ยว 45 หลัง บ้านตุลาการเชิงดอยสุเทพ
15 มกราคม 2562 อนุมัติ17ล้านฟื้นฟู’บ้านป่าแหว่ง’-ย้ายหมดหลังบ้านพักเชียงรายเสร็จ
17 พฤษภาคม 2562 บ.คู่สัญญาค้างจ่ายผู้รับเหมารายย่อย สร้างบ้านพักตุลาการ จ.เชียงใหม่
12 สิงหาคม 2562 อนุมัติงบ 9 ล้าน ฟื้นฟูป่าบ้านพักตุลาการ
14 สิงหาคม 2562 ‘ชำนาญ’ ตั้งกระทู้ถาม คืบหน้าคืน’บ้านป่าแหว่ง’ด้านรมต.โยนศาลยธ.ชี้ขาดทุบหรือไม่
12 กันยายน 2562 ‘เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่า’ ตบเท้าลาออก กก.ฟื้นฟูป่าแหว่ง หลังพบจังหวัดใช้เงินฟื้นฟู 9 ล.ขัดเจตนารมณ์เดิม