บางจาก สนองนโยบายพลังงานฯ จับมือค่ายอีซูซุ-โตโยต้า เพิ่มสัดส่วนใช้ B20 ในรถกระบะ การันตีประหยัดกว่า 5 บาทต่อลิตร-ช่วยเหลือชาวสวนปาล์มน้ำมัน
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในพิธีเปิดโครงการ “บางจาก B20 เพื่อรถดีเซล ลดฝุ่น ประหยัดเงิน” ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก ถ.พระราม 2 เขตบางขุนเทียน ตอนหนึ่งว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถขนส่งขนาดใหญ่ ทางกระทรวงมีนโยบายขยายการใช้น้ำมัน B20 ไปยังกลุ่มรถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก
นายศิริ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท อีซูซุ และบริษัท โตโยต้า ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรถกระบะที่มียอดขายรวมกันมากถึง 97 รุ่น และบางจาก ได้ให้ความร่วมมือขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันดีเซล B20 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมี 174 แห่งมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ครอบคลุมในทุกภูมิภาค เพื่อรองรับจำนวนที่เพิ่มขึ้นของรถกระบะและรถขนส่งขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้
“ล่าสุดคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติขยายเวลาลดราคาน้ำมันดีเซล B20 ให้มีราคาถูกกว่าดีเซลปกติลิตรละ 5 บาทต่อไปอีก 2 เดือน จนถึง 31 ก.ค.นี้ เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันดีเซล B20 และเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน และลดค่าใช้จ่ายภาคขนส่ง” นายศิริ กล่าว
นายศิริ กล่าวอีกว่า กระทรวงฯ ตั้งเป้าหมายในการใช้ B20 จากปัจจุบันวันละ 6 แสนลิตร เพิ่มเป็น 15 ล้านลิตรต่อวัน และปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบมาผลิตน้ำมันดีเซล B20 จากปัจจุบันใช้วันละ 1.54 แสนตันต่อปี เป็น 2 ล้านตันต่อปีภายใน 3-6 เดือนข้างหน้า เพื่อดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นเกินตลาด โดยมีเป้าหมายสูงสุดจะดูดซับปริมาณปาล์มดิบให้มากถึง 2 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่อยู่ในประเทศ หรือ 3 ล้านตันต่อปี พร้อมพยุงให้ราคาปาล์มสดสูงถึงตันละ 3 บาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาปาล์มตกต่ำมากที่สุดในรอบ 20 ปี บางจากได้ร่วมส่งเสริมการใช้น้ำมันปาล์มด้วยการจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 ให้กลุ่มอุตสาหกรรม รถยนต์ และเรือขนส่ง มาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2561 และเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2562 ได้เปิดจำหน่ายน้ำมันบางจาก ไฮดีเซล B20 ที่สถานีบริการเพื่อรองรับรถขนส่งขนาดใหญ่ที่ได้รับการรับรองการใช้จากผู้ผลิตรถ ได้แก่ สแกนเนีย วอลโว่ อีซูซุ ฮีโน่ UD และ MAN
ทั้งนี้ ล่าสุดค่ายรถยนต์อีซูซุ และโตโยต้า ได้ออกประกาศรุ่นรถกระบะที่ใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้ โดยบางจากสนับสนุนด้วยการขยายจำนวนสาขาจำหน่ายให้มากขึ้น และร่วมรณรงค์ให้รถกระบะใช้น้ำมันดีเซล B20 ด้วยการมอบบัตรสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ พร้อมคะแนนสะสม 100 คะแนน สำหรับลูกค้าที่ออกรถกระบะใหม่ เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดและสะสมคะแนนในการเติมน้ำมันบางจาก ไฮดีเซล B20 ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2562
“บางจากได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อการใช้งานและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม มีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาน้ำมันมาตรฐาน Euro 5 และดีเซลเกรดพิเศษ Hi Premium Diesel S รวมถึงได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนมาโดยตลอด สำหรับดีเซล B20 ที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้ร่วมสนับสนุนส่งเสริมการใช้งาน โดยประกาศรุ่นรถที่รองรับจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนผู้ใช้รถที่สามารถใช้รถน้ำมันดีเซล B20 ได้ช่วยกันเลือกใช้น้ำมันดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง” นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายสุรัตน์ มโนรัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายอุตสาหกรรม บริษัท ตรีเพชร อีซูซุ เซลส์ จำกัด กล่าวว่า ตลอดกว่า 10 ปี อีซูซุ ได้ร่วมมือกับภาครัฐหลายหน่วยงานในการวิจัยพัฒนา ตลอดจนร่วมทดสอบน้ำมันไบโอดีเซล ในขณะเดียวกันได้มุ่งมั่น ทุ่มเทพัฒนาผลิตภัณฑ์ของอีซูซุ ทั้งรถปิกอัพ รถบรรทุก และรถอเนกประสงค์ Mu-x ให้สามารถรองรับน้ำมันที่ดีสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลที่สูงขึ้น
“ตัวอย่างหนึ่งในโครงการที่ทำร่วมกับบางจาก คือ H-FAME ในขณะนี้ อีซูซุ ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซล และพลังงานทดแทนไบโอดีเซล ได้ปรับเครื่องยนต์ที่จะออกใหม่ทุกรุ่นให้รองรับ B20 แล้วทั้งรถบรรทุกขนาดกลาง และใหญ่กว่า 400 รุ่น และเริ่มขยายไปสู่รถขนาดเล็ก คือ รถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่น 2012-2019 รวม 20 รุ่น และรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ อีซูซุมิวเอ็กซ์ รุ่น ปี 2014-2019 จำนวน 12 รุ่น แต่ต้องเตรียมความพร้อมรถแต่ละรุ่น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนหากจำเป็น โดยลูกค้าอีซูซุสามารถติดต่อและนำรถเข้าศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศเพื่อตรวจสอบ และให้สามารถใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” นายสุรัตน์ ระบุ
ด้าน นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้าได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้น้ำมันดีเซล B20 ดังนี้ รถไฮลักซ์ รีโว่ และฟอร์จูนเนอร์ ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน สามารถรองรับการใช้ B20 รถไฮลักซ์ วีโก้ และฟอร์จูนเนอร์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2554-2558 กรณีที่ต้องการเติมน้ำมัน B20 อย่างต่อเนื่อง และใช้งานในพื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเป็นประจำ กรุณาขอคำแนะนำจากศูนย์บริการโตโยต้า ก่อนการใช้งาน
นอกจากนี้ ปัจจุบันได้ปรับลดราคารถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ทุกรุ่นให้สอดคล้องกับอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งราคาที่ปรับลดลงมีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2562 เป็นต้นมา หากลูกค้ามีข้อสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ศูนย์บริการ 0-2386-2000 หรือ ติดต่อผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ทั่วประะเทศ
อย่างไรก็ตาม โตโยต้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การส่งเสริมการใช้น้ำมัน B20 ในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้เป็นอย่างดี และสามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย โตโยต้า จึงจะคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป เพื่อให้อุตสาหกรรมยานยนต์สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างกลมกลืน