ส.ศิวรักษ์ หนุนพายเรือเก็บขยะช่วยพิทักษ์ธรรม คงคุณค่าแม่น้ำ-ซัดทางเลียบทำลายเจ้าพระยา

ส.ศิวรักษ์ ชี้กิจกรรมพายเรือเก็บขยะนำสู่การสร้างความเป็นธรรม ชู “แม่น้ำ” หัวใจสำคัญ กำลังถูกทำลายโดยโครงการทางเลียบเจ้าพระยา

นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ เปิดเผยภายหลังกิจกรรม “พายเรือเพื่อเจ้าพระยา-เก็บขยะจากปากน้ำโพถึงอ่าวไทย” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2561 ตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่ธรรมศาสตร์ได้ออกมาแสดงบทบาทการพิทักษ์ธรรมอีกครั้งในกิจกรรมพายเรือครั้งนี้ เพราะแม่น้ำเองเป็นส่วนหนึ่งในธรรมชาติ และมีคำว่า “ธรรม” ที่เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งการเข้าสู่หัวใจของการพิทักษ์ธรรม ประการแรกคือต้องปกป้องธรรมชาติ หลังจากนั้นจึงเป็นการต่อสู้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ที่เป็นประเด็นสำคัญนับตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

“การที่อาจารย์ปริญญาและคณะ เริ่มจากพิทักษ์แม่น้ำเจ้าพระยาของเรานั้น เป็นสิ่งประเสริฐที่สุด เพราะภูมิปัญญาของเราตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา มีแม่น้ำเป็นหัวใจ เราย้ายมากรุงธนบุรี กรุงเทพมหานคร แม่น้ำลำคลองเป็นหัวใจของเรามาตลอด แต่เมื่อเราถอนกำพืดของเราออกในตอนหลัง เห็นถนนสำคัญกว่าน้ำ เห็นรถยนต์สำคัญกว่าเรือ นั่นคือความหายนะ และคนที่ไม่เห็นคุณค่าของแม่น้ำ ทำลายแม่น้ำมาตลอด” นายสุลักษณ์ กล่าว

นายสุลักษณ์ กล่าวว่า ในอดีตผู้คนบริเวณแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี จะอยู่อาศัยบนแพ แต่ปัจจุบันไม่สามารถอยู่ต่อได้ เนื่องจากสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างเขื่อนสูงขึ้นมาจนทำลายคูคลองทั้งหลาย เกิดน้ำท่วมและคนแพอยู่ไม่ได้ นับเป็นความหายนะที่เกิดขึ้น เพราะมีนายกรัฐมนตรีที่ไม่เห็นคุณค่าของแม่น้ำ ไม่เห็นคุณค่าของของชีวิตดั้งเดิม แต่นั่นยังนับเป็นเพียงประเด็นเดียว เพราะขณะนี้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังจะทำลายแม่น้ำเจ้าพระยา

“คสช.จะสร้างถนนเลียบลำน้ำเจ้าพระยา กำลังจะเป็นอนุสาวรีย์ที่ไร้ความอาย ควรจะไล่ไปให้พ้นสักที ไม่ให้สร้างถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เพราะแม่น้ำเจ้าพระยานั้นเป็นหัวใจของเรา และหากใครสังเกตงานอุ่นไอรักเร็วๆ นี้ ที่ลานพระราชวังดุสิตมีเรือพระที่นั่งจำลอง ท่านทรงบอกใบ้ไว้แล้วว่าเมื่อถึงคราวเสด็จเลียบพระนครในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค เรือเหล่านั้นจะออกมาวิ่ง ถ้ารัฐบาลฉลาดและอ้างว่าจงรักภักดีจริง มันต้องขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยาให้สะอาด ถวายเป็นพระราชกุศลเพื่อเฉลิมพระบารมี” นายสุลักษณ์ กล่าว

นอกจากนั้นในงานกิจกรรมปั่นจักรยาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำพสกนิกรขี่จักรยานเลียบลำคลองต่างๆ เชื่อว่าเป็นการบอกใบ้ที่ต้องการให้ลำคลองต่างๆ กลับมามีชีวิตชีวาร่วมกับแม่น้ำเจ้าพระยา โยงใยซึ่งกันและกัน ซึ่งการมีทางน้ำที่โยงใยถึงกันนั้นให้ประโยชน์ได้สารพัด รวมถึงช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดต่างๆ ดังนั้นตนเองจึงดีใจที่มีการเริ่มงานพายเรือครั้งนี้ และหวังว่าจะมีต่อไปเพื่อปลุกมโนธรรมสำนึกให้ผู้คนเห็นความสำคัญของแม่น้ำ

อนึ่ง กิจกรรม “พายเรือเพื่อเจ้าพระยา-เก็บขยะจากปากน้ำโพถึงอ่าวไทย” ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2561 โดยเป็นการพายเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาผ่าน 10 จังหวัด ระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อร่วมกันเก็บขยะ เริ่มต้นที่ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ และจะไปสิ้นสุดที่พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในวันที่ 23 ธ.ค. 2561 ซึ่งขบวนเรือทั้งหมดประกอบด้วยเรือคายัคหลัก นำโดย ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ร่วมกับเรือสมทบของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกิจกรรมในแต่ละจังหวัด