‘ชัยภูมิ ป่าแส’ ถูกทหารยิงดับด้วยอาวุธสงคราม ศาลไม่วินิจฉัยเกินกว่าเหตุหรือไม่-จี้เปิด CCTV

ศาลอ่านคำสั่งชันสูตร “ชัยภูมิ ป่าแส” ชี้เสียชีวิตเพราะพลทหารใช้เอ็ม 16 ยิง ด้านทนายความเรียกร้องเปิดภาพจากกล้องวงจรปิด

ศาลจังหวัดเชียงใหม่ อ่านคำสั่งคดีชันสูตรพลิกศพ นายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2561 ชี้ข้อเท็จจริงว่านายชัยภูมิ เสียชีวิตเพราะถูกพลทหารสุรศักดิ์ รัตนวรรณ ทหารประจำด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2560 จากเหตุการณ์ที่ถูกทหารจับตาย โดยอ้างว่ามียาเสพติด พยายามต่อสู้ขัดขืน และจะทำร้ายเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นโต้แย้งที่ฝ่ายอัยการผู้ร้องอ้างว่า พลทหารสุรศักดิ์จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว เพราะนายชัยภูมิจะใช้อาวุธมีดทำร้าย และจะใช้ระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ ขณะที่ผู้คัดค้านยืนยันว่าไม่มีการต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ โดยคำสั่งในคดีชันสูตรพลิกศพจะถูกส่งเข้าไปประกอบกับสำนวนในคดีวิสามัญฆาตกรรมเพื่อให้ศาลได้พิจารณา

นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความคดีไต่สวนการตายของนายชัยภูมิ กล่าวว่า ในส่วนของทีมทนายความจะยังคงพยายามให้ข้อเท็จจริงสู่ศาลมากที่สุด พร้อมเรียกร้องให้ทหารยอมนำภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงขณะเกิดเหตุเข้าสู่สำนวนคดี เพราะเป็นประเด็นสำคัญทางคดีและสังคมให้ความสนใจ

“กล้องที่ทหารส่งให้พนักงานสอบสวนไม่พบข้อมูลภาพเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุ แสดงให้เห็นว่าภาพเหตุการณ์ในจุดสำคัญได้หายไป จึงขอฝากถึงผู้บังคับบัญชาของทั้งหน่วยงานตำรวจและทหาร ต้องสั่งการสอบสวนว่าภาพสำคัญที่ทำสำเนาไว้ตามคำสั่งอยู่ที่ใคร เพราะสาธารณชนให้ความสนใจ และเป็นประเด็นสำคัญทางคดี” นายรัษฎา กล่าว

นายไมตรี จำเริญสุขสกุล ประธานกลุ่มรักลาหู่ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ผ่านมานานกว่า 1 ปี แต่ยังไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ ขณะที่คำสั่งศาลในวันนี้ ไม่ได้ระบุว่านายชัยภูมิตายเพราะผลจากการปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำให้ทางครอบครัวยังคงสับสน จึงต้องปรึกษากับทนายความอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป